Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

ประกาศความเป็นส่วนตัว

(Privacy Notice)

สำหรับคู่ค้าทางธุรกิจ

บริษัทฯ บีเอสแอลคลินิก จำกัด (“บริษัทฯ”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งอาจเป็นบุคคลธรรมดา ตัวแทนของนิติบุคคล เช่น กรรมการ ผู้มีอำนาจลงนาม ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ผู้ปฏิบัติงาน ตัวแทน พนักงาน และลูกจ้างของนิติบุคคลที่ได้เข้าร่วม หรือจะเข้าร่วมทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทฯ (“ท่าน”) และมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัทฯ และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลดังกล่าว ด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในการนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้าทางธุรกิจฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายถึงวิธีการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย และวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจ้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

ข้อ 1. คำนิยาม

“ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า”

หมายถึง บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจ ผู้ดำเนินงานร่วมกับบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่ขอใบเสนอราคา หรือที่บริษัทฯ เสนอราคา

“คู่ค้า”

หมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัทฯ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้เข้าร่วมธุรกิจ (ทั้งในกรณีที่ขายสินค้าให้แก่บริษัทฯ โดยตรง และในกรณีที่ร่วมพัฒนาสินค้ากับบริษัทฯ เพื่อจำหน่าย) ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง ที่ปรึกษา ผู้มีประสบการณ์ นักวิชาการ วิทยากร คู่สัญญาของบริษัทฯ

“ผู้เกี่ยวข้อง”

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ ผู้มอบอำนาจ พยาน ผู้ปฏิบัติงานในนามนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้องในการทำนิติกรรมสัญญา อาทิ ผู้ส่งสินค้า ผู้รับสินค้า เป็นต้น

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว”

หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

ข้อ 2. ประเภทและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทฯ จัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทางบริษัทฯ ได้กำหนด และ/หรือวิธีอื่นใด บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บจากท่านโดยอาจแตกต่างกัน แล้วแต่กรณี และลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป รายละเอียดส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ ลายมือชื่อ ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ข้อมูลตามนามบัตร เช่น อาชีพ ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน ข้อมูลการโต้ตอบ และการสื่อสาร ในกรณีที่ท่านติดต่อบริษัทฯ รวมถึงข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม และบริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะในรูปแบบ หรือวิธีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นภาพ หรือเสียงโดยไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

ข้อมูลที่ระบุสถานะการเป็นตัวแทนธุรกิจ ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน สถานะการเป็นผู้บริหารระดับสูง กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ผู้ปฏิบัติงาน ตัวแทน พนักงาน และลูกจ้างของนิติบุคคลที่ได้เข้าร่วม หรือจะเข้าร่วมทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัทฯ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญจ่าย รวมถึง เอกสารอื่นใดที่ใช้ในการระบุตัวตน และการยืนยันตัวตน ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านรับรองต่อบริษัทฯ ว่าท่านได้รับความยินยอมจากผู้เกี่ยวข้องให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ รวมถึงยินยอมให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้

ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

บริษัทฯ ไม่มีความประสงค์ให้บริษัทฯ จัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน แต่หากข้อมูลดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัทฯ เช่น เชื้อชาติ หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด บริษัทฯ แนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตามหากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทฯ ถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัทฯ ทำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทฯ สามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

ในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สามลูกค้าของบริษัทฯ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่เป็นผู้ควบคุม หรือประมวลผลข้อมูล ที่บริษัทฯ เชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้มีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทฯ ได้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลมาจากช่องทาง ดังนี้

  • 3.1 บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านคนกลาง หรือในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น
  • 3.2 เจ้าหน้าที่และหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • 3.3 บุคคลที่สามอื่น ๆ เช่น บริษัทฯ ที่ท่านสังกัด ผู้แทนของท่าน นายจ้าง ผู้สนับสนุน และบุคคลที่สามที่มีบทบาทในการให้บริการแก่ท่าน ผู้จัดจำหน่าย ตัวแทนที่เป็นบุคคลภายนอก รวมถึงบุคคลใด ๆ ที่ดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านั้น

ข้อ 4. วัตถุประสงค์ และฐานในการประมวลผลข้อมูล

  • 4.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลของท่าน ในกรณีท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือการให้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
  • 4.2 บริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานความยินยอม เพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (3) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (4) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก (5) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (6) ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในประกาศฉบับนี้ บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ลำดับ

วัตถุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

1

เพื่อดำเนินการตามคำขอ ความประสงค์ของท่านก่อน หรือขณะเข้าทำสัญญา รวมถึง การติดต่อกับท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และดำเนินการใด ๆ เพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การประเมินความเหมาะสม คุณสมบัติ การเสนอข้อเรียกร้อง การเสนอราคา และการประกวดราคา

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

2

เพื่อบริหารจัดการให้เป็นไปตามสัญญาที่บริษัทฯ ได้ทำขึ้น หรือจะได้จัดทำขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับท่าน รวมถึงการตรวจรับ และการรับสินค้าหรือบริการ บริหารจัดการความสัมพันธ์ ตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในใบสั่งซื้อ หรือสัญญา หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

3

เพื่อดำเนินการประมวลผลตามคำขอ การอนุมัติ การเข้าทำสัญญา การใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบและยืนยันตัวตน ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนคู่ค้า รวมถึงการจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ การจัดการในเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการลงนาม และปฏิบัติตามสัญญา

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

4

เพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง คัดเลือกคู่ค้า ลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ การตรวจสอบข้อมูลและคุณสมบัติของคู่ค้า หรือผู้เกี่ยวข้องที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่าง ๆ ของคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในระบบของบริษัทฯ เช่น การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลของคู่ค้า เป็นต้น

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

5

เพื่อการเก็บรักษา แก้ไขปรับปรุงรายชื่อ สมุดรายนาม และประวัติการดำเนินการทางธุรกิจใด ๆ ระหว่างบริษัทฯ กับคู่ค้าให้เป็นปัจจุบัน การจัดเก็บสัญญา และเอกสารที่เกี่ยวข้องในสารบบของบริษัทฯ

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

6

เพื่อการเรียกเก็บเงิน หรือหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัทฯ การเข้าทำธุรกรรม การดำเนินการชำระเงิน และ/หรือรับชำระเงินจัดการกับข้อเรียกร้องและข้อพิพาท รวมถึงการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาท การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย หรือการดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

7

เพื่อบริหารโครงสร้างบริษัทฯ การจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน การควบคุมภายใน การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง ความปลอดภัย การตรวจสอบบัญชี การเงินและการบัญชี ระบบและการดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัทฯ

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

8

เพื่อใช้ในการโอน การควบรวมกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน ซึ่งบริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามรายใดรายหนึ่ง หรือหลายรายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น ๆ

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

9

เพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การตั้งหนี้ การชำระเงิน การหักบัญชี รายการบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของเลขที่บัญชี และหมายเลขบัตรเครดิต หรือเดบิต และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงินใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ การชำระหนี้ การเรียกเก็บเงิน และการดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับบัญชีของท่านในฐานะคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทฯ

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

10

เพื่อการบริหารกิจการของบริษัทฯ ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ระบุ และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การทุจริตประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้าของบริษัทฯ

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

11

เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ จัดเตรียมกิจกรรม การดำเนินงานตามสัญญา และเพื่อดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการบริหารสัญญา หรือการเข้าทำสัญญาเพิ่มเติมในคราวต่อ ๆ ไป

การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

12

เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และท่าน

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

13

เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งใน และต่างประเทศที่ใช้บังคับ และเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทฯ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ รวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือการดำเนินคดี

การปฏิบัติตามกฎหมาย

14

เพื่อใช้ในการออกใบกำกับภาษี โดยเป็นไปตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 86/4 ของประมวลรัษฎากร ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 199) เป็นต้น

การปฏิบัติตามสัญญา/การปฏิบัติตามกฎหมาย

ข้อ 5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • 5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามกฎหมายให้แก่บุคคลและหน่วยงาน ดังต่อไปนี้
    • 5.1.1 บริษัทในเครือ และบริษัทฯ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามรายชื่อที่ปรากฏบนเว็บไซต์ www.bslclinic.com ที่มีข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทฯ ดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    • 5.1.2 ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง ผู้ที่ทำหน้าที่ในนามบริษัทฯ หรือร่วมกับบริษัทฯ เพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ และมีความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน การตรวจสอบทางบัญชี หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของบริษัทฯ
    • 5.1.3 ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้รับบัญชี หรือผู้มีประสบการณ์อื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ เป็นต้น
    • 5.1.4 หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
    • 5.1.5 ผู้รับโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทฯ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับโอนดังกล่าวให้ดำเนินการแทน เช่น กรณีปรับโครงสร้างองค์กร ควบรวมหรือซื้อกิจการ เป็นตน
  • 5.2 บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมถึงจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น โดยในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

ข้อ 6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟต์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทฯ จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

ข้อ 7. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

  • 7.1 บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ แบ่งได้ดังนี้

กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทฯ ในฐานะที่ท่านเป็นคู่สัญญา คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ผู้เกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านั้น โดยบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่ท่านตามระยะเวลาในสัญญา และจะเก็บต่อไปอีก 5 (ห้า) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสัญญาหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์กับท่าน

ในกรณีมีการขอใช้สิทธิตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ บริษัทฯ จะเก็บหลักฐานประวัติการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ 5 (ห้า) ปี นับถัดจากเดือนที่บริษัทฯ พิจารณาคำขอของท่านแล้วเสร็จ

กรณีอื่น ๆ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทฯ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ กรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต

  • 7.2 เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้วบริษัทฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่บริษัทฯ ใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อคุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยท่านสามารถส่งคำขอให้บริษัทฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนดในการดำเนินการตามสิทธิ ดังต่อไปนี้

  • 8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้

  • 8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่าน หรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผล เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทฯ ได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทฯ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

  • 8.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หรือสถิติ

หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

  • 8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อบริษัทฯ เห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่ท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
  • 8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด ที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
  • 8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพ บริษัทฯ จะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของบริษัทฯ ที่ชอบด้วยกฎหมายและในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายบริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากท่าน
  • 8.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อบริษัทฯ ผ่าน แบบฟอร์มร้องเรียนการประมวลผลข้อมูล หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 9. วิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลา 1 (หนึ่ง) เดือน หรือ 30 วันทำการ นับแต่ได้รับคำร้องอย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่าน ในกรณีที่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย หรือบริษัทฯ จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ หรือมีผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือเป็นการปฏิเสธตามคำสั่งศาล หรือหากบริษัทฯ ดำเนินการตามคำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการบันทึกการปฏิเสธคำร้องขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้ ทั้งนี้ หากปรากฏอย่างชัดเจนว่า

คำร้องขอของท่านเป็นคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล หรือคำร้องขอฟุ่มเฟือยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอในอัตราที่บริษัทฯ กำหนด

  • 9.2 บริษัทฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตาม คำร้องขอ เนื่องมาจากเหตุทางเทคนิค
  • 9.3 ในบางสถานการณ์บริษัทฯ อาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนการใช้สิทธิเพื่อความปลอดภัยของท่านเอง โดยบางครั้งอาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ ซึ่งบริษัทฯ จะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้
  • 9.4 หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา หรือฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ท่านใช้สิทธิโต้แย้ง หรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน และขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ รวมถึงบริษัทฯ อาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน หากบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลต่อไป
  • 9.5 บริษัทฯ จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบว่า การขอใช้สิทธิของท่านบางประการ อาจเกิดข้อจำกัด ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย และการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ และบริเวณรอบข้างทรัพย์สินของบริษัทฯ ความปลอดภัยในบริเวณกิจกรรม ความปลอดภัยของตัวท่านเอง

ข้อ 10. มาตรการการรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับ
นโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทฯ และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

ข้อ 11. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

บริษัท บีเอสแอลคลินิก จำกัด เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง ดังนี้

เรื่องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล : ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: (Data Protection Officer)

  • Email : [email protected] และ ต้องกรอกข้อมูล Link
  • ที่อยู่ : เลขที่ 30/8 ถนนศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กทม 10500
  • หมายเลขโทรศัพท์ : 099-343-8666
  • วันและเวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 20.00 น.

ข้อ 12. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวที่จะมีผลบังคับใช้ ณ วันที่ได้เผยแพร่ต่อไปโดยมิต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ

ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565