Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีอาการเรื้อรัง สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ภูมิแพ้เป็นอาการที่ร่างกายมีความไวต่อสารบางอย่างที่ปะปนมาในสิ่งแวดล้อมในอากาศ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ดอกหญ้า เชื้อราบางชนิด หรืออาหารซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วทำให้การผลิตสารฮีสตามิน (Histamine) ทำให้เกิดอาการแพ้

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

สาเหตุของโรคภูมิแพ้

  • พันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว หากพ่อแม่เป็นภูมิแพ้ ลูกมีแนวโน้มเสี่ยงสูง
  • สิ่งแวดล้อม การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการสัมผัสกับฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรือเกสรดอกไม้ ดอกหญ้า ในช่วงวัยเด็ก 1-2 ปี อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้
  • ร่างกายไวต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจกระตุ้นให้ผื่นกำเริบ
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ร่างกายมีกระบวนการอย่างไร

เมื่อสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ปกติร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันซึ่งทำหน้าที่จดจำสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ภูมิแพ้ คือ ภาวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ครั้งแรก โดยสร้างภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า แอนติบอดี (Antibody) เพื่อต่อสู้กับสารเกิดภูมิแพ้ มีผลทำให้แมสท์ (Mast Cell) หลั่งอีสตามีนขึ้นที่เนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะ อาการที่พบ เช่น คัดจมูก แน่นหน้าอก ผื่นหรือลมพิษ ในบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคภูมิแพ้?

โรคหลายชนิดมีอาการคล้ายโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหวัดธรรมดาที่มีอาการคล้ายโพรงจมูกอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้ โรคหอบหืด ดังนั้น ควรให้แพทย์เป็นผู้ทำการวินิจฉัย เพื่อสามารถให้การรักษาที่ถูกต้อง

อาการของโรคภูมิแพ้เป็นอย่างไร?

อาการภูมิแพ้ขึ้นอยู่กับระบบของร่างกายที่มีผลกระทบ แต่ที่พบได้บ่อย คือ อาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยมีอาการเหมือนแพ้อากาศ เยื่อบุตาอักเสบและคัน คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คล้ายเป็นหวัดเรื้องรังตลอดปี ไอ หรือมีอาการของโรคหอบหืด
  • ผื่นคันที่ผิวหนัง โดยเฉพาะที่ใบหน้า ซอกแขน ข้อพับ
  • ผิวแห้ง แดง ลอก หรือเป็นขุย
  • คันเรื้อรัง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
  • ในบางรายอาจมีตุ่มน้ำเล็ก ๆ หรือผื่นลมพิษ
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

อาการทางผิวหนัง

เช่น ผื่นคัน ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) เมื่อร่างกายสัมผัสหรือได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรืออาหารบางชนิด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ไวผิดปกติจะปล่อยสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมาเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น
ผลของการหลั่งสารนี้คือ
  • หลอดเลือดที่ผิวหนังขยายตัว ทำให้เกิดอาการบวม แดง คัน
  • เกิดผื่น หรือลมพิษเป็นปื้นนูนแดง อาจมีลักษณะร้อนหรือแสบร่วมด้วย
  • หากเป็นนานๆ ผิวอาจหนา หยาบ หรือแห้งเป็นขุย โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย
  • ในบางราย เช่น เด็กเล็กหรือผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว จะมีแนวโน้มเกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ได้ง่าย
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

อาการทางระบบทางเดินอาหาร

เช่น ท้องเสีย อาเจียน อาหารไม่ย่อย เป็นต้น เมื่อร่างกายรับสารก่อภูมิแพ้ทางอาหาร เช่น นมวัว ถั่ว ไข่ หรืออาหารทะเล ในบางรายที่ไวต่อโปรตีนหรือสารบางชนิดในอาหารเหล่านั้น ระบบภูมิคุ้มกันจะมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็น “ผู้รุกราน” และตอบสนองด้วยการสร้าง แอนติบอดี (Antibody)
ผลของการตอบสนองนี้ทำให้
  • ลำไส้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้ดูดซึมไม่ดี จึงเกิดอาการ ท้องเสีย
  • ระบบย่อยอาหารไวผิดปกติ จึงอาจเกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือจุกแน่น
  • บางรายอาจมี อาการแพ้รุนแรงแบบเฉียบพลัน (anaphylaxis) โดยมีอาการทั้งทางผิวหนัง หายใจ และระบบทางเดินอาหารพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉิน

การรักษา

แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ยา หรืออาจช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง โดยฉีดสารที่ก่อเกิดให้เกิดอาการแพ้เข้าสู่ร่างกาย เมื่อร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยตัวเองแล้ว จึงไม่เกิดอาการแพ้อีก

  • พบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยและประเมินอาการอย่างถูกต้อง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ปลอดภัย อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย หรือสเตียรอยด์
  • หลีกเลี่ยงสารที่กระตุ้น เช่น แชมพู น้ำหอม ผงซักฟอก
  • ออกกำลังกาย ลดความเครียด และนอนหลับให้เพียงพอ
เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารที่ก่อนให้เกิดภูมิแพ้ให้น้อยที่สุด
  • อยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้สะอาด หลีกเลี่ยงการแต่งบ้านที่อาจทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง เช่น การปูพรม ไม่ควรมีหนังสือพิมพ์เก่า ๆ หรือชั้นวางหนังสือในห้องนอน
  • ลดการสะสมของฝุ่นละอองโดยใช้ผ้าคลุมเตียงและปลอกหมอนชนิดกันฝุ่น หรือใช้เครื่องกรองอากาศ
  • กำจัดสัตว์ที่อาจเป็นพาหะของเชื้อโรคภายในบ้าน เช่น หนู แมลงสาบ ไร (โดยทาพื้นด้วย Benzylbenzoate) เป็นต้น
  • ไม่รับประทานอาหารหรือยาที่คิดว่าทำให้เกิดการแพ้
  • หลีกเลี่ยงความเครียด หรือ วิตกกังวล นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q : ภูมิแพ้ผิวหนังหายขาดได้ไหม?
A : โรคภูมิแพ้ผิวหนังไม่สามารถ “หายขาด” ได้แบบถาวร เพราะเป็นโรคที่มีลักษณะเรื้อรังและมักเกิดซ้ำได้ แต่สามารถดูแลและควบคุมอาการให้ดีขึ้นได้มาก หากรู้วิธีหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และดูแลผิวให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงสารก่อระคายเคือง และพบแพทย์เมื่อต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม

Q: ผิวแพ้ง่ายควรใช้ครีมแบบไหน?
A: ควรเลือกครีมที่ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ และมีสารให้ความชุ่มชื้น เช่น ceramide, glycerin หรือ panthenol

Q: เด็กเล็กสามารถใช้ครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายได้ไหม?
A: หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผิวบอบบาง และผ่านการทดสอบการแพ้ ก็สามารถใช้ในเด็กได้ โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ

สรุป

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งทางกายและใจ การดูแลที่เหมาะสมต้องเริ่มจากการเข้าใจสาเหตุ ร่วมกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้น และลดความถี่ของการกำเริบได้

เขียนบทความโดย

พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676