Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
เลเซอร์ Fraxel Program

เลเซอร์ Fraxel Program เหมือนกัน ทำไมผลลัพธ์ต่างกัน เพราะอะไร?

Fraxel Program คือเทคโนโลยีเลเซอร์ที่พัฒนาเพื่อใช้ในการดูแลผิวพรรณ โดยออกแบบมาให้ลงลึกเฉพาะจุด (Fractional Laser) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และช่วยฟื้นฟูผิวที่มีปัญหา เช่น รอยแผลเป็น รอยหลุมสิว หรือริ้วรอยต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้ชื่อว่า Fraxel Program เหมือนกัน แต่ละรุ่นของเครื่องนี้มีลักษณะการปล่อยพลังงาน ความยาวคลื่น และความสามารถในการลงลึกที่ต่างกัน ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังการรักษาอาจแตกต่างกันตามเทคโนโลยีที่ใช้ โดยหลักการคือเป็นเครื่อง Fractional ER : Glass

Fractional Er:Glass คืออะไร?

Fractional Er : Glass คือ ชื่อเรียกของเทคโนโลยีเลเซอร์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้พลังงานแสงความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง เพื่อส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังอย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือการยิงเลเซอร์แบบ Fractional หรือ ยิงแบบแยกเป็นจุดเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิวเฉพาะจุดที่มีปัญหา
 
หลักการทำงานแบบเข้าใจง่าย

Er : Glass ย่อมาจาก Erbium-doped Glass เป็นแหล่งกำเนิดเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นประมาณ 1550 นาโนเมตร ความยาวคลื่นนี้เหมาะกับการดูแลชั้นผิวในระดับกลางถึงลึก เช่น ปัญหารอยหลุมสิว ริ้วรอยตื้นถึงปานกลาง และรูขุมขนกว้าง

เมื่อยิงเลเซอร์ลงไป จะกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นในระยะเวลาต่อมา เนื่องจากเป็นแบบ non – ablative (ไม่ลอกผิวด้านบน) ผิวจึงไม่บางลง และโดยทั่วไปมักใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการทำของแต่ละคน

เลเซอร์ Fraxel Program

ทำเลเซอร์ Fraxel Program ทั้งที ควรเลือกอย่างไร

Fraxel Program เป็นชื่อทางการค้าของเลเซอร์ชนิด Fractional Er : Glass ที่มีความเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและการส่งพลังงานลงสู่ผิว ร่วมกับการตั้งค่าที่สามารถปรับลึกได้หลายระดับ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันหลายชนิดในท้องตลาด ดังนั้นผู้ที่สนใจควรสอบถามชื่อรุ่นเครื่องและขอรับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายการรักษาของแต่ละบุคคล

Fraxel Laser Program มีกี่แบบ

มี 3 รุ่นแต่ละรุ่นสามารถปรับพลังงานให้ลงลึกได้ไม่เหมือนกัน เพราะความยาวคลื่นต่างกัน และช่วงพลังงานที่สามารถตั้งค่าได้ในแต่ละเครื่องแตกต่างกัน ดังนั้นผลการรักษาเลยได้ไม่เท่ากัน เช่น สิว หลุมสิว ต่อมไขมัน หรือปัญหารอยแผลเป็น ซึ่งสาเหตุของรอยโรคอยู่ลึกลงอีก ตั้งพลังงานเลเซอร์หรือใช้เครื่องรุ่นที่ไม่เหมาะสมกับผิวและปัญหา ก็อาจทำให้ผลการดูแลไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นเป้าหมายหรือปัญหาที่ต้องการรักษา จึงต้องอาศัยทักษะและดุลพินิจของแพทย์ ควรโฟกัสได้ตรงกับปัญหาและความลึกของรอยโรค เพื่อให้ผลการรักษาใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้

Fraxel Laser Program มีกี่แบบ
  1. Program Fraxel : refine 1410 nm จะทำงานได้ตื้นกว่า คือลงลึกใต้ผิวหนังได้ (350 – 650 ไมครอน)
  2. Program Fraxel : Restore 1550 nm จะสามารถลงได้ลึกมากกว่า คือลงลึกใต้ผิงหนังได้ถึง (350 – 1400 ไมครอน) และครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่าในการตั้งค่าเดียวกันส่วน Program Fraxel : dual 1550/1927 คือ คล้ายกับเครื่อง Program Fraxel : Restore 1550 nm แต่มีเพิ่มการลอกผิวด้านบนด้วย จึงไม่เหมาะที่จะใช้ ความยาวคลื่น 1927 ในการรักษาในคนไข้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือบาง
  3. Program Fraxel re:pair เป็น Fractional CO2 Program จึงไม่เหมาะกับคนไทยเพราะจะทำลายผิวจากด้านบนเลยไม่มีในประเทศไทย ดูได้จาก http://fraxel.com/fraxelphysician/fraxel-science/technical-specs

ทำไมผลการรักษาถึงต่างกัน?

  1. เครื่อง Fraxel Program แต่ละรุ่นให้พลังงานลึกไม่เท่ากัน
  2. แพทย์ต้องประเมินความลึกของปัญหาผิว เพื่อเลือกเครื่อง รุ่นเลเซอร์ และพลังงานให้เหมาะสม
  3. การตั้งค่าพลังงานและเทคนิคของแพทย์ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา
  4. การใช้เลเซอร์ชนิดอื่นที่มีหลักการทำงานแตกต่างจาก Fraxel Program แม้จะถูกนำมาใช้กับปัญหาคล้ายกัน อาจทำให้ผลลัพธ์แตกต่างจากที่คาดไว้
Fraxel Program ทำไมผลการรักษาถึงต่างกัน?

รู้จัก Program Fraxel : Restore 1550 Mode of Action Non - Ablative

พลังงานเลเซอร์ ลงไปทำงานโฟกัสปัญหาผิวที่ใต้ผิว โดยลดการระคายเคืองของผิวชั้นหนังกำพร้า ลดโอกาสผิวหน้าบาง อีกทั้งยังส่งพลังงานลงความลึกได้ถึง 1400 ไมครอน (Depth of Penetration Up to 1400µm) จากข้อมูลเคสด้านเลเซอร์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ยุคอนันต์คลินิก มาสู่ BSL Clinic ช่วยให้การปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์สอดคล้องกับเป้าหมายการดูแลผิวของแต่ละคนมากขึ้นเพื่อให้เลเซอร์ไปทำงานตามเป้าหมาย เพื่อดูแลปัญหารอยแผลเป็น สิว หลุมสิว รอยดำ และฝ้า และให้ผิวหน้าใสขึ้น

การเลือกใช้เครื่องมือเลเซอร์ และเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล มีส่วนสำคัญต่อประสิทธิภาพของการรักษา หากไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การวางแผนร่วมกับแพทย์จึงเป็นอีกขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญ

เลเซอร์ Fraxel Program

สรุป

การทำเลเซอร์ Fraxel Program แม้จะใช้ชื่อเดียวกัน แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่อง, ความลึกของพลังงานที่ใช้ และความเข้าใจของแพทย์ในการประเมินและวางแผนการรักษา การเลือกสถานพยาบาลที่ระบุชื่อรุ่นและข้อมูลเทคโนโลยี Fraxel Laser จากผู้ผลิตอย่างชัดเจน ร่วมกับการวางแผนร่วมกับแพทย์ที่เข้าใจปัญหาผิวของแต่ละคน จะช่วยให้แนวทางการรักษาใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้มากขึ้น

เขียนบทความโดย

นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Fraxel Program

Fraxel Program มักใช้ดูแลปัญหาผิวที่มีความลึกระดับชั้นผิวกลางถึงลึก เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิวหรือการผ่าตัด ริ้วรอยตื้นถึงปานกลาง รอยดำ รอยหมอง สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง รวมถึงช่วยให้พื้นผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้น โดยแพทย์จะประเมินก่อนว่าปัญหาผิวแบบไหนเหมาะกับการใช้โปรแกรมนี้ร่วมด้วย

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การเลือกคลื่นเลเซอร์หรือรุ่นเครื่องให้เหมาะกับปัญหา การตั้งค่าพลังงานให้ถึงชั้นผิวที่ต้องการดูแล จำนวนครั้งที่ทำ และการดูแลผิวหลังทำ หากพลังงานไม่เพียงพอ ทำไม่ครบตามจำนวนครั้งที่แนะนำ หรือผิวได้รับแสงแดดและการระคายเคืองบ่อย ผลลัพธ์อาจดูไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

ตัวอย่างเช่น Program Fraxel Restore 1550 nm จัดอยู่ในกลุ่มเลเซอร์แบบ non-ablative คือเน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวด้านล่าง โดยไม่มีการกรอหรือลอกผิวชั้นบนออกทั้งหมด จึงลดโอกาสที่ผิวหน้าจะถูกลอกจนบางลงจากตัวเลเซอร์เอง อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวหลังทำ เช่น การหลบแดดและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ยังคงสำคัญมาก

โดยทั่วไปมักแนะนำให้ทำต่อเนื่องประมาณ 3–5 ครั้ง ห่างกันครั้งละราว 4–6 สัปดาห์ ขึ้นกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน หลังทำแต่ละครั้งผิวมักค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงขึ้นทีละน้อย และกระบวนการสร้างคอลลาเจนจะยังดำเนินต่อเนื่องหลังจบคอร์สไปอีกระยะหนึ่ง

ก่อนทำมักมีการทายาชาหรือเตรียมผิวเพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย ระหว่างทำอาจรู้สึกอุ่น ๆ หรือแปลบเล็กน้อยทีละจุด ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ใช้และความไวของผิวแต่ละคน หากระหว่างทำรู้สึกแสบหรือร้อนมากสามารถแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปรับการดูแลได้

หลังทำมักมีอาการหน้าแดง รู้สึกตึง หรือมีผิวลอกละเอียดเล็กน้อยในช่วง 3–7 วันแรก แล้วค่อย ๆ ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงแดดจัด ความร้อนสูง หรืองานกลางแจ้งต่อเนื่อง และดูแลความชุ่มชื้นของผิวให้ดี เพื่อลดโอกาสระคายเคือง

ส่วนใหญ่สามารถประเมินเพื่อใช้โปรแกรมนี้ได้ แต่ในบางราย เช่น ผิวที่ไวต่อแสงมาก มีผื่นอักเสบอยู่ในบริเวณนั้น หรือต่อเนื่องจากการทำหัตถการอื่นในระยะใกล้กัน อาจจำเป็นต้องปรับแผนหรือเลื่อนเวลาออกไปก่อน จึงควรให้แพทย์ตรวจผิวและซักประวัติโดยละเอียดก่อนเริ่มทำ

Fraxel Program จะยิงเป็นจุดเล็ก ๆ จำนวนมาก (fractional) ลงไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยเว้นเนื้อเยื่อปกติระหว่างจุดเล็ก ๆ ให้ช่วยในการฟื้นตัว ความต่างจากเลเซอร์ชนิดอื่นอยู่ที่ความยาวคลื่น วิธีส่งพลังงาน และระดับการลงลึก ซึ่งแพทย์จะเลือกชนิดที่เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวแต่ละคน

ในหลายเคส Fraxel Program ถูกใช้เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับช่วยให้พื้นผิวเรียบขึ้น และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอกว่าเดิม แต่มักใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น ยาทา ครีมบำรุง การดูแลรอยดำ หรือหัตถการอื่นที่ช่วยเสริมกันในแต่ละช่วง การวางแผนจะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของผิวต้องการโฟกัสหลุมสิว รอยดำ หรือทั้งสองอย่างควบคู่กัน

แนะนำให้เตรียมข้อมูลปัญหาที่กังวลเป็นหลัก (เช่น หลุมสิว ริ้วรอย หรือรอยแผลเป็น) ประวัติการทำเลเซอร์หรือหัตถการมาก่อน รวมถึงสกินแคร์และยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หากมีรูปก่อน–หลังจากการรักษาที่เคยทำมาก่อนจะช่วยให้แพทย์ประเมินแนวโน้มผิวของแต่ละคนได้ชัดเจนขึ้น

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์หรือใช้แทนการพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพผิวหรือหนังศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง

ถ้ายังไม่แน่ใจว่า Fraxel Program เหมาะกับหลุมสิว แผลเป็น หรือรอยผิวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน สามารถปรึกษาได้ที่