ใส่แมสเป็นสิว ปัญหาที่หลายคนพบเจอเมื่อต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในยุคที่การใส่แมสกลายเป็นสิ่งจำเป็น เหตุผลที่เราใส่หน้ากากอนามัยก็เพราะป้องกันการติดเชื้อโรค ป้องกันฝุ่นละออง หรือฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ทำให้เราต้องหันมาใส่ “แมส” กันเกือบตลอดเวลา บวกกับอากาศประเทศไทยเป็นเมืองที่ร้อนอบอ้าว ผิวหน้าจึงมีอาการเหงื่อไหลได้ง่าย ทำให้หลายๆ คน มีปัญหาสิวอุดตันจากแมส เกิดจากความอับชื้นและการเสียดสีของหน้ากากกับผิวหน้า ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง จนทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่าย การดูแลผิวและป้องกันสิวจากแมสจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวหน้าสุขภาพดี แม้ต้องใส่แมสก์ทุกวัน
การใส่หน้ากากอนามัย เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่หลายคนอาจเจอปัญหา “ใส่แมสแล้วสิวขึ้น” ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
ความอับชื้น จากเหงื่อและไอน้ำจากลมหายใจ
เกิดความอับชื้น ที่เกิดจากเหงื่อ และละอองจากการไอจาม ความชื้นของเหงื่อ และละอองที่กระจายอยู่ในหน้ากาก ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในปริมาณที่มากกว่าปกติเป็นสาเหตุทำให้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราโตขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบ และกลับมาทำร้ายผิวหน้าของเราได้
การเสียดสี จากเนื้อผ้าที่กระทบกับผิวหน้า
เกิดการเสียดสี หากแมสที่ใส่มีขนาดไม่พอดีกับใบหน้า และมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เวลาที่ขยับใบหน้าบ่อยๆ ตัวแมสก็จะมีการเสียดสีถูไถไปกับใบหน้าของเราทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคืองและอักเสบ หรือเกิดผื่นแพ้ขึ้นที่ผิวหน้าได้
เสี่ยงเกิดริ้วรอยก่อนวัย
เกิดรอยกดทับบนใบหน้า ในกรณีที่แมสมีขนาดเล็กเกินไป ช่วงบริเวณที่ขอบและสายคล้องก็จะรัดแน่น เมื่อใส่เป็นเวลานานๆ จะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้
การอุดตัน เมื่อแต่งหน้าและใส่แมสทับ
การเกิดสิวและการอุดตัน ที่จริงแล้วการใส่แมสนั้น เป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดปัญหาสิวขึ้นได้ ทั้งในคนที่ไม่แต่งหน้าและในคนที่แต่งหน้า แต่เครื่องสำอางที่เราใช้แต่งหน้าบวกกับเหงื่อที่อบอยู่ภายใต้แมสนั้น จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ
หลักๆ แล้ว สิวที่เกิดจากการใส่แมสนั้น จะเป็นประเภท สิวอุดตัน และสิวผด โดยสิวอุดตันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ค่ะ
สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (Blackheads หรือ open comedone) จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำขึ้นบริเวณรอบๆ จมูกและใบหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน ในขณะที่สารเหล่านั้นโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศจะทำปฏิกิริยาให้เปลี่ยนเป็นจุดสีดำ
สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (Whiteheads หรือ close comedone) เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวบนผิวหนัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขน แต่รูขุมขนที่อุดตันนั้นจะไม่ได้สัมผัสอากาศ จึงไม่มีการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน และยังคงมองเห็นเป็นจุดสีขาวที่อุดตันอยู่บนผิวหนัง
สิวผด สิวประเภทนี้จะมีลักษณะ เป็นตุ่มเล็กๆ สีขาว หรือสีชมพู แต่จะไม่มีหัว และอาจมีอาการคันร่วมด้วย
เลือกแมสที่มีขนาดพอดีกับใบหน้า
รักษาความสะอาดของแมส เมื่อถอดออกควรเก็บใส่ซอง หรือถุงซิปล็อกที่สะอาด
เปลี่ยนตามระยะเวลาการใช้งานที่เหมาะสม คือ ควรเปลี่ยนทุกวันและไม่นำกลับมาใช้ซ้ำอีก
เลือกแมสที่มีความอ่อนนุ่ม เพื่อลดการบาดเจ็บของผิวหน้าเมื่อมีการเสียดสีขึ้น
ระหว่างวันถอดออกบ้างเพื่อให้ผิวหน้าได้มีการระบายเสมือนให้ผิวได้หายใจ
ก่อนการสัมผัสกับแมสควรใช้เจลล้างมือก่อนทุกครั้ง วิธีจับเวลาใส่และถอด คือ ให้จับที่สายคล้อง และควรถอดในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ถอดในแหล่งชุมชนที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคสูง
ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งหลังจากที่ถอดแมส หากแต่งหน้า หรือทาครีมกันแดด ควรใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ กับคลีนเซอร์เช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อนการล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันการอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวปราศจากสารเคมีที่ไปกระตุ้นทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ฉลากเขียนว่า Hypoallergenic ที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน (Non-Comedogenic) และในส่วนผสมยังปราศจากน้ำมัน (Oil-Free), ปราศจากสารเคมี (Non-Chemical), ปราศจากน้ำหอม (No Perfume – No Fragrance) และปราศจากสารกันบูด (No Preservatives) อีกด้วย
การแต่งหน้า ให้เลือกแต่งหน้าเพียงครึ่งท่อนบนของใบหน้า ที่ผิวไม่ได้สัมผัสกับบริเวณที่ใส่แมส หรือจะเลือกแต่งหน้าเพียงบางๆ รวมถึงงดแต่งหน้าไปเลย ก็สามารถช่วยได้
ลองสังเกตตัวเองกันดูนะคะว่า ปัญหาใดกันแน่ที่เมื่อเราสวมใส่ “แมส หน้ากากอนามัย” แล้วทำให้เกิด “สิว” หรือปัญหาผิวต่างๆ จากนั้นก็เลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองจะดีที่สุดค่ะ
— แล้วนอกจากแมส หน้ากากอนามัย ที่ใส่กันอยู่ จะทำให้เกิดสิวแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ผิวหน้าเป็นสิวได้อีกนะ —
โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
การดูแลสิวโดยคำนึงถึงสาเหตุของสิวในแต่ละคน คือ การรักษาสิวที่สาเหตุ ของผู้ใช้บริการแต่ละบุคคล เพื่อให้ผลการรักษาออกมามีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นหากผิวมีสิวขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้วิเคราะห์สิวของคุณที่เป็นอยู่ มีลักษณะอย่างไร เพื่อนำไปสู่วิธีการรักษาสิว หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ ยาชนิดใดที่เหมาะกับอาการสิว ลักษณะผิว และสาเหตุของการเกิดสิว ดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ระคายเคือง ผิวกลับมาเรียบเนียนขึ้น ด้วย 4 แนวทางการรักษาสิวของ BSL Clinic
เบื้องต้น แนวทางการดูแลปัญหาสิวที่ BSL Clinic จะพิจารณาตามลักษณะผิวและปัจจัยเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยแพทย์อาจแนะนำการใช้ยาทา หรือยารับประทานที่เหมาะสม ทั้งนี้การใช้ยาอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ แพทย์จะตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้โฟกัสที่ต่อมไขมันของการเกิดสิว เพื่อลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดต่อมไขมันให้ฝ่อตัวลง (Sebaceous Gland) พลังงานความร้อนที่ใช้ในการรักษาจะถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวที่เป็นต้นเหตุของสิว โดยช่วยลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองของผิวหนังชั้นบนและบริเวณรอบข้างโดยช่วยลดโอกาสการระคายเคืองของผิวหนังชั้นบนและบริเวณรอบข้าง เลเซอร์ 1726 nm เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลปัญหาสิวจากสาเหตุของต่อมไขมัน
หากจำเป็นต้องแต่งหน้าและต้องใส่แมสด้วย มี 3 คำแนะนำ เพื่อให้มีผิวหน้าที่ดูกระจ่างใส เรียบเนียน
– แต่งเบาบาง เฉพาะส่วนบนที่ไม่ได้สัมผัสแมส
– หลีกเลี่ยงรองพื้นหนา หรือใช้แป้งฝุ่นสูตรไม่อุดตัน
– ล้างเครื่องสำอางด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ทุกครั้ง
ใส่แมสเป็นสิวไม่ใช่เรื่องเล็ก หากดูแลไม่ถูกต้องอาจทำให้สิวลุกลามหรือเรื้อรังได้ การปรับพฤติกรรมง่ายๆ เช่น เลือกแมสให้เหมาะ ล้างหน้าให้สะอาด เลี่ยงการแต่งหน้าหนา และหากอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อวิเคราะห์และวางแผนการรักษาที่เหมาะกับผิวคุณที่สุด
เขียนบทความโดย
นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678
เพราะจุดนี้เป็นตำแหน่งที่แมสสัมผัสแน่น เคลื่อนไหวตามเวลาพูด และเกิดการอับชื้นสูงจากลมหายใจและเหงื่อ จึงมีโอกาสเกิดการเสียดสี การอุดตันของรูขุมขน และสิวอักเสบได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า
สามารถแต่งหน้าแล้วใส่แมสได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-Comedogenic) เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และควรล้างเมกอัปออกให้สะอาดทุกครั้งหลังถอดแมส เพื่อลดการสะสมของคราบเหงื่อ น้ำมัน และเครื่องสำอางที่อาจทำให้ใส่แมสแล้วเป็นสิวง่ายขึ้น
ไม่จำเป็นต้องงดใส่แมส แต่ควรเลือกแมสที่เหมาะกับผิว เช่น เนื้อผ้านุ่ม ไม่เสียดสีผิวหน้าเกินไป ระบายอากาศได้ดี และเปลี่ยนแมสบ่อยขึ้น รวมถึงดูแลผิวให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น การแต่งหน้าหนา ๆ การเช็ดหน้าบ่อย ๆ หรือการจับแมสบ่อยโดยไม่จำเป็น
สิวจากการใส่แมสมักขึ้นตามแนวที่แมสสัมผัสผิว เช่น คาง กราม แก้มล่าง สันจมูก หรือบริเวณที่สายรัดหูพาดผ่าน มักเกิดในช่วงที่เริ่มใส่แมสบ่อยขึ้นหรือใส่ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง หากช่วงไหนใช้งานแมสน้อยลงแล้วสิวดีขึ้น มีโอกาสสูงว่าจะเกี่ยวข้องกับการใส่แมส
ควรเลือกแมสที่เนื้อสัมผัสเรียบ นุ่ม ไม่เสียดสีผิวมากเกินไป และพอดีกับใบหน้า ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป หากใช้แมสผ้า ควรซักและตากให้แห้งสนิททุกครั้งก่อนใส่ใหม่ หลีกเลี่ยงการใช้แมสผืนเดิมซ้ำ ๆ โดยไม่ได้ทำความสะอาด เพราะความอับชื้น เหงื่อ และคราบสะสมอาจทำให้สิวขึ้นง่ายยิ่งขึ้น
ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะการล้างหน้าถี่ ๆ อาจทำให้ผิวแห้ง ตึง และระคายเคืองมากขึ้น แนะนำให้ล้างหน้าเช้า–เย็น และเพิ่มการล้างอีกครั้งหลังถอดแมสในวันที่ใส่นาน ๆ โดยใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน และซับหน้าให้แห้งเบา ๆ แทนการถูแรง
ควรเลือกสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอโดยไม่มันเกินไป หลีกเลี่ยงครีมที่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่ทำให้ผิวระคายเคืองง่ายบริเวณที่แมสสัมผัสผิวโดยตรง และสามารถใช้เจลแต้มสิวเฉพาะจุดร่วมด้วยได้หากมีสิวอักเสบขึ้น
สามารถใช้แผ่นแปะสิวร่วมกับการใส่แมสได้ในบางกรณี เพราะช่วยลดการเสียดสีของแมสกับหัวสิวโดยตรง แต่ควรเลือกแผ่นแปะที่แนบกับผิวได้ดี ไม่หนาหรือย่นง่าย และล้างหน้าให้สะอาดก่อนติดทุกครั้ง หากแปะแล้วรู้สึกผิวอับชื้นมากขึ้นหรือมีการระคายเคือง ควรหยุดใช้และสังเกตอาการ
หากเริ่มมีรอยแดง รอยดำจากสิว ควรหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิวเพิ่มเติม ดูแลผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวและครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพราะแสงแดดอาจทำให้รอยสิวเข้มขึ้นได้ ในบางรายอาจต้องใช้ยาทาเพื่อลดรอยร่วมด้วย ตามการประเมินของแพทย์
ควรพิจารณาพบแพทย์เมื่อสิวอักเสบจำนวนมาก เริ่มเจ็บ ตึง เป็นก้อนลึก หรือมีรอยแดง รอยดำมากขึ้น แม้จะพยายามดูแลตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น รวมถึงกรณีที่สงสัยว่ามีผื่นแพ้หรือระคายเคืองจากเนื้อแมสร่วมด้วย การประเมินโดยแพทย์จะช่วยให้ได้คำแนะนำเรื่องการเลือกแมส การใช้ยา และการดูแลผิวที่เหมาะกับแต่ละคนมากขึ้น
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์หรือใช้แทนการพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพผิว ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง