ภายใต้การดูแลของแพทย์
ปัญหาริมฝีปากคล้ำ อาจเป็นเรื่องที่หลายคนต้องการดูแลให้สีสม่ำเสมอขึ้น ปัจจัยต่างๆ เช่น สีผิวโดยกำเนิด อายุ และสภาพแวดล้อม อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีริมฝีปาก เมื่ออายุมากขึ้น ริมฝีปากอาจมีสีเข้มขึ้นตามกระบวนการเปลี่ยนแปลงของผิว เช่นเดียวกับสีผิวในส่วนอื่นของร่างกาย
1. ลักษณะเฉพาะบุคคล – คนที่มีผิวคล้ำอาจมีริมฝีปากที่เข้มกว่าคนผิวขาว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแต่ละบุคคล
2. อุณหภูมิ – อากาศเย็นอาจทำให้ริมฝีปากดูเข้มขึ้นชั่วคราว เนื่องจากเส้นเลือดหดตัว
3. สุขภาพร่างกาย – ภาวะโลหิตจาง โรคหัวใจ หรือการฟื้นตัวจากอาการป่วย อาจมีผลต่อสีของริมฝีปาก
4. อาหารบางชนิด – เช่น ผักชีฝรั่ง กระเทียม ขิง หรือผลไม้รสเปรี้ยว อาจกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมื่อสัมผัสกับแสงแดด
5. การใช้ยา – ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ หรือยารักษาโรคภูมิแพ้ อาจทำให้ผิวไวต่อแสง
6. ริมฝีปากแห้ง – อาจเกิดจากยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์ หรือสารที่ทำให้เกิดฟอง
7. ลิปสติก และเครื่องสำอาง – สารบางชนิด เช่น สี น้ำหอม หรือสารกันเสีย อาจทำให้ริมฝีปากระคายเคือง
8. สภาพแวดล้อม – อากาศเย็น แห้ง หรือการดื่มน้ำน้อย อาจทำให้ริมฝีปากแห้งและเข้มขึ้น
9. การเลียริมฝีปากบ่อยๆ – อาจทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้น และแห้งแตกมากขึ้น
10. การใช้ลิปบาล์มบ่อยครั้ง – อาจส่งผลต่อความชุ่มชื้นของริมฝีปากในระยะยาว
11. ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ชัดเจน – ในบางกรณี แม้จะพยายามดูแลแล้ว ริมฝีปากอาจยังมีสีเข้มขึ้นได้
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ริมฝีปากคงความชุ่มชื้น
2. ทำความสะอาดริมฝีปากให้สะอาดหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะผักผลไม้รสเปรี้ยว
3. เลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟองน้อยและรสอ่อนลง หรือทาวาสลินก่อนแปรงฟันเพื่อช่วยป้องกันการระคายเคือง
4. หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก เพราะอาจทำให้ริมฝีปากแห้งมากขึ้น
5. ใช้วาสลินหรือลิปบาล์มที่มีสารป้องกันแสงแดด เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปาก
6. การดูแลริมฝีปากด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยม โดยแพทย์อาจใช้เลเซอร์ที่เหมาะสม เช่น Program Q-Switch Ruby Laser เพื่อช่วยลดเลือนเม็ดสีที่เข้มขึ้น จำนวนครั้งที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาจต้องทำประมาณ 1-3 ครั้ง ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
เขียนบทความโดย :
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678