Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ลดเหงื่อ

โปรแกรมลดเหงื่อและกลิ่นตัว

ช่วยดูแลและเสริมความมั่นใจ ให้กลับมาใช้ชีวิตที่ต้องการได้อย่างสบายใจ

ภาวะที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)

การหลั่งเหงื่อออกมาภายนอกร่างกาย เป็นภาวะปกติของร่างกาย ในการควบคุมอุณหภูมิ โดยจะมีการส่งผ่านปลายประสาทอัตโนมัติ แต่ในบางคนพบว่ามีการหลั่งเหงื่อออกมามากกว่าปกติ มักพบที่บริเวณ รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงใบหน้า คอ อก ลำตัว ข้อพับ ขาหนีบ ได้ โดยหากเกิดที่บริเวณข้อพับหรือรักแร้ อาจทำให้มีการอับชื้น เกิดกลิ่นเหงื่อหรือมีกลิ่นตัวแรงได้ ภาวะนี้มักพบได้บ่อยโดยเฉพาะในวัยรุ่น เป็นภาวะที่ก่อให้กลิ่นตัว รู้สึกเหนอะหนะ ให้เกิดความไม่สะดวกและไม่สบายใจได้ ซึ่งมีผลต่อการทำงาน การเข้าสังคม และทางด้านจิตใจ ทำให้เกิดความรู้สึกขาดความมั่นใจได้

จากการศึกษา พบว่า ?

  • ประมาณ 50% เกิดที่รักแร้ โดยอาจเกิดที่รักแร้จุดเดียว หรือร่วมกับที่ฝ่ามือ และ/หรือฝ่าเท้า
  • ประมาณ 29% เกิดที่ฝ่าเท้าเพียงตำแหน่งเดียว และ/หรือร่วมกับจุดอื่น ๆ
  • และประมาณ 25% เกิดที่ฝ่ามือเพียงตำแหน่งเดียว และ/หรือร่วมกับจุดอื่น ๆ
ภาวะที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)

ในภาวะปกติ สามารถพบช่วงมีเหงื่อออกมากกว่าปกติได้
เช่น ในการออกกำลังกาย อากาศร้อน อากาศอบอ้าว กินอาหารเผ็ดหรืออาหารร้อน ตื่นเต้น เครียด หรือมีไข้

***ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด พบว่าอาจเกิดจากภาวะเครียดวิตกกังวล ตื่นเต้น หรือเกิดจากมีสาเหตุของโรค เช่น พบว่าต่อมไทรอยด์มีการทำงานที่ผิดปกติ***

ภาวะหลั่งเหงื่อมากเกิดได้อย่างไร มีปัจจัยเสี่ยงไหม ?

ภาวะหลั่งเหงื่อมาก
  • มีความสัมพันธ์กับพันธุกรรม โดยพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวมีภาวะนี้สูงถึงประมาณ 30-65% และในกลุ่มคนที่มีความผิดปกติของยีนบางชนิด จะพบภาวะนี้ได้ประมาณ 25% แต่ในคนที่มียีนนั้น ๆ ปกติ จะพบภาวะนี้ได้เพียงประมาณ 1%
  • โรคอ้วน เพราะชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่หนาขึ้นจะส่งผลให้ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดี จึงต้องเพิ่มการระบายความร้อนออกทางเหงื่อ
  • จากการขาดฮอร์โมนเพศหญิงในวัยหมดประจำเดือนหรือภาวะวัยทอง (Post menopausal syndrome)
  • ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Thyrotoxicosis)
  • โรคเบาหวาน จากร่างกายมีความผิดปกติในการใช้พลังงานและการอักเสบเรื้อรังของเนื้อเยื่อต่างๆ
  • การติดเชื้อโรคที่ส่งผลให้เกิดอาการไข้เรื้อรัง เช่น โรคมาลาเรีย และวัณโรค
  • โรคหัวใจวายเรื้อรัง เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานเพิ่มในการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายให้เพียงพอ ความร้อนในร่างกายจึงสูงขึ้น ซึ่งต้องกำจัดออกโดยการเพิ่มภาวะเหงื่อออก
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด (เช่น ยาพาราเซตามอลหรือยาที่มีส่วนผสมของมอร์ฟีน) ยาโรคความดันโลหิตสูง ยาโรคเบาหวาน และยาด้านจิตเวช
  • โรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งในโรคมะเร็งอาการเหงื่อออกมากผิดปกติทั่วตัวมักเกิดในช่วงกลางคืน

ภาวะหลั่งเหงื่อมากรุนแรงไหม มีผลข้างเคียงไหม ?

หลั่งเหงื่อมากรุนแรงไหม

ภาวะเหงื่อออกมากไม่ได้เป็นภาวะที่รุนแรง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลต่อความมั่นใจหรือการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการเข้าสังคม จากการอับชื้น และมีกลิ่น เช่น กลิ่นตัวเมื่อเกิดในบริเวณรักแร้ และกลิ่นเท้าเมื่อเกิดที่ฝ่าเท้า เป็นต้น นอกจากนั้น ผิวหนังซึ่งเปียกชื้นเสมอ จะติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และเกิดอาการผื่นคันง่าย

เหงื่อออกมากผิดปกติไหม
เหงื่อออกมากเกินไป

วิธีรักษาภาวะเหงื่อออกมาก

วิธีรักษาภาวะเหงื่อออกมาก
  1. ใช้สารในกลุ่มที่ลดการขับเหงื่อที่มีสารอลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminium chloride) ในรูปของโรลออน ครีม หรือสเปรย์ แต่อาจลดเหงื่อได้เล็กน้อย และต้องใช้บ่อยๆ ในบางรายจึงอาจเกิดการระคายเคืองต่อผิว ทำให้รักแร้มีสีคล้ำขึ้นได้
  2. วิธีไอออนโตโฟรเรซิส (Iontophoresis) ที่ผ่านกระแสไฟฟ้าขนาดอ่อนลงสู่ใต้ผิวหนังเพื่อลดเหงื่อ การรักษาวิธีนี้ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จึงไม่เป็นที่นิยม
  3. การผ่าตัดต่อมเหงื่อ การผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะมีการเลาะต่อมเหงื่อออกไป หรือมีการตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงต่อมเหงื่อเพื่อให้สั่งงานลดลง ซึ่งเป็นการลดการทำงานของประสาทอัตโนมัติ จึงลดอาการเหงื่อออก แต่การผ่าตัดมักไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง ได้แก่ แผลเป็น โดยจะมีแผลขนาดเล็กราว ๆ 1–2 เซนติเมตร หรือพบว่าอาจมีการติดเชื้อได้ในบางราย
  4. การรักษาด้วยโปรแกรมฉีดโปรตีนลดการทำงานของต่อมผลิตเหงื่อใต้ผิวหนัง นอกจากนำมาใช้ร่วมกับการดูแลลดรอยเหี่ยวย่นใบหน้าแล้ว ยังอาจใช้เป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยลดปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขนที่ส่งผลต่อความมั่นใจในบางคน โดยโปรตีนลดการทำงานของต่อมผลิตเหงื่อ จะออกฤทธิ์โดยลดการหลั่งสารที่ไปกระตุ้นการเกิดเหงื่อ การรักษาใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยทั่วไปมักรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และหลายคนสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ค่อนข้างเร็ว ทั้งนี้ในบางรายอาจมีรอยเข็มเล็ก ๆ ชั่วคราว ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงตามเวลา โดยทั่วไปเริ่มสังเกตได้ว่าเหงื่อออกค่อย ๆ ลดลง ในช่วงประมาณ 1–2 สัปดาห์ และโดยทั่วไปผลลัพธ์อาจคงอยู่ได้ราว 7–8 เดือน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หลายคนรู้สึกว่าเมื่อเหงื่อและกลิ่นตัวรบกวนลดลง ช่วยให้ดำเนินชีวิตประจำวันได้สบายใจขึ้น และรู้สึกมั่นใจในการแต่งกายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ระดับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน

การดูแลของแพทย์ที่ BSL จะเริ่มจากการประเมินสาเหตุของปัญหาเหงื่อออกมาก และใช้ Iodine-starch test ประกอบตามความเหมาะสม เพื่อช่วยวางแผนการรักษาให้เหมาะกับบริเวณต่อมเหงื่อและลักษณะผิวของแต่ละคน โดยคำนึงถึงความต้องการและความสบายใจของผู้รับบริการเป็นหลัก ทั้งนี้รูปแบบการรักษาและผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • จากเดิมเหงื่อออกมือจนจับของลำบาก หลังได้รับการดูแลอาการเหงื่อออกเฉพาะจุด อาการเริ่มเบาลงและใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น รายละเอียดเล่าไว้ใน รีวิวเหงื่อออกมือ
  • หลายคนเคยกังวลเรื่องเหงื่อรักแร้และกลิ่นตัวระหว่างวัน หลังได้รับการดูแลเพื่อลดเหงื่อเฉพาะจุด บางรายรู้สึกว่าความชื้นและกลิ่นลดลงอย่างชัดเจน (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) สามารถชมตัวอย่าง รีวิวลดเหงื่อรักแร้ ที่ BSL Clinic
  1. Amin, K. (2007). Primary focal hyperhidrosis. Dermatologreview.com Journal, Feb 2007. http://www.dermatologyreview.org/journal/hyperhidrosis.pdf [2013,July18].
  2. Hyperhidrosis http://en.wikipedia.org/wiki/Hyperhidrosis [2013,July18].
  3. Hyperhidrosis http://emedicine.medscape.com/article/1073359-overview#showall [2013,July18].
  4. Kaufmann,H. et al. (2003).Primary hyperhidrosis.Clin Auton Res.13, 96-98.
  5. Sweat gland http://en.wikipedia.org/wiki/Sweat_gland [2013,July18].
  6. Thomas, I. et al. (2004). Palmoplantar hyperhidrosis: a therapeutic challenge. Am Fam Physician. 69, 1117-1121.
  7. Roberto De Menerzea Lyra, Visual scale of Hyperhidrosis: Researchgate.net 
  8. Visual scale for the quantification of hyperhidrosis to measure or quantify hyperhidrosis clinically with a visual scale on the basis of drawings, ranging from being normal to having the worst possible level of hyperhidrosis; Wikipedia.org
พญ. วิภาณี อัครภูษิต เลขว. 39676

เขียนบทความโดย:

พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)

แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676