Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
เลเซอร์ผิวรอบดวงตา

ปัญหาผิวรอบดวงตา ริ้วรอย รอยคล้ำ ถุงใต้ตา

สามารถดูแลให้กระจ่างใสขึ้นได้ โดยแพทย์

ผิวรอบดวงตาเป็นจุดที่สะท้อนความเหนื่อยล้าได้ชัด ทั้งรอยคล้ำ ริ้วรอยเล็ก ๆ และถุงใต้ตาที่ทำให้หน้าดูหมองกว่าที่รู้สึก เลเซอร์ผิวรอบดวงตาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นำมาใช้ร่วมกับการประเมินผิวและปัจจัยพื้นฐานของแต่ละคน เพื่อจัดลำดับว่าควรดูแลด้านใดเป็นพิเศษ หน้านี้จึงสรุปปัญหาที่มักพบรอบดวงตา แนวทางดูแลร่วมกันระหว่างคนไข้กับแพทย์ และตัวอย่างวิธีช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดูแลรอยคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตา ให้แลดูจางลง

ผิวรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางและละเอียดอ่อนกว่าส่วนอื่นของใบหน้า ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาต่างๆ ได้ง่าย รอยคล้ำใต้ตาเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวล ไม่ว่ารอยคล้ำใต้ตาจะเกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่ปรากฏ ก็ควรทำความเข้าใจเพื่อป้องกันและดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสอย่างยาวนาน เราสามารถจำแนกประเภทของรอยคล้ำใต้ตาพร้อมแนวทางการดูแลได้ดังนี้

3 ปัญหาสำคัญรอบดวงตา ที่ควรดูแล

ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ

ปัญหาถุงใต้ตาบวม

ถุงใต้ตาบวมเกิดจากการสะสมของน้ำและไขมันรอบดวงตา ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินอาจลดลง ส่งผลให้ผิวรอบดวงตาดูหย่อนคล้อย เมื่อมีการสะสมของไขมันและน้ำใต้ตาเพิ่มขึ้น อาจทำให้ถุงใต้ตาดูชัดขึ้น

นอกจากนี้ การคั่งของน้ำบริเวณใต้ตาอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น โรคภูมิแพ้ การติดเชื้อในโพรงไซนัส ความดันโลหิตสูง การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง หรือแม้แต่การร้องไห้ก็อาจส่งผลต่ออาการบวมชั่วคราว

ปัญหาหมองคล้ำใต้ตา

รอยหมองคล้ำใต้ตาอาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่สมดุล ทำให้เส้นเลือดขยายตัว และเกิดการคั่งของเลือดบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการสะสมของเมลานินใต้ผิวหนัง ซึ่งมีปัจจัยจากพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่นๆ เช่น การระคายเคืองจากพฤติกรรม เช่น การถูหรือขยี้ตาบ่อยๆ หรือปัจจัยอื่น เช่น ผิวหนังอักเสบ (eczema) และการแพ้เครื่องสำอาง

ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา

ริ้วรอยรอบดวงตาอาจเกิดจากการลดลงของคอลลาเจนและอิลาสติน ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและกระชับ ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา โดยเฉพาะบริเวณหางตาและใต้ตา ผิวรอบดวงตามีแนวโน้มเกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากมีความบอบบาง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเกิดริ้วรอย เช่น การแสดงสีหน้าบ่อยๆ (ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้) การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ และการระคายเคืองเรื้อรังของผิวรอบดวงตา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจมีผลต่อการเกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้

แนวทางป้องกันและดูแลริ้วรอยรอบดวงตา

หลังจากรู้สาเหตุของการเกิดรอยคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตาแล้ว เราก็จะมาดูว่าเราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร

เลเซอร์ผิวรอบดวงตา

1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง
2. ทำความสะอาดรอบดวงตาด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรงๆ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด ซึ่งอาจช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้
4. ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงความชุ่มชื้น
5. การดูแลด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยม ซึ่งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เช่น

  • Q-switched laser อาจช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา
  • Vascular laser : long pulsed Nd-Yag laser อาจใช้เพื่อลดเลือนเส้นเลือดที่ทำให้เกิดรอยคล้ำ
  • การฉีดสารเติมเต็ม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีร่องน้ำตาลึก ซึ่งควรทำโดยแพทย์
  • การฉีดโปรตีนคลายกล้ามเนื้อ อาจช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้

ปัญหารอบดวงตาอาจมีความซับซ้อน เนื่องจากหลายคนอาจมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้การดูแลต้องอาศัยวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น การดูแลผิวรอบดวงตาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยชะลอการเกิดปัญหาผิวในอนาคต

พญ. วิภาณี อัครภูษิต เลขว. 39676

เขียนบทความโดย :

พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)

แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676