จากเดิมที่คิดเสมอว่าตัวเองเป็นคนที่มีโครงหน้าดูเหลี่ยม และดูมีกรามที่ใหญ่ เวลาส่องกระจกไม่ชอบหน้าตัวเอง ตั้งแต่เด็กจนโตก็มักจะทำผมอยู่ทรงเดียวคือ การปล่อยผม ไม่ชอบมัดผมขึ้น เพื่อใช้ผมช่วยปิดโครงหน้า เรียกได้ว่าไม่เคยมั่นใจกับโครงหน้าของตัวเองเลย เมื่อเกิดปัญหานี้ BSL มีวิธีการดูแลรักษาที่ช่วยให้คุณมีความมั่นใจกับรูปหน้าที่ดูเรียววีเชฟขึ้น
ขั้นตอนการรักษา
ภาพก่อน-หลังการรักษาโปรแกรมหน้าเรียววีเชฟ ครั้งที่ 1
หน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างไร? ปัญหากรามใหญ่จะทำให้โครงหน้าโดยรวมดูใหญ่ไปด้วย เมื่อเราปรับโครงหน้าให้หน้าดูเรียวเล็กได้สัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ และช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น
ภาพก่อน-หลังการรักษาโปรแกรมหน้าเรียววีเชฟ ครั้งที่ 2
ผลการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม พร้อมทั้งยกกระชับกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ไม่ว่าจะมองมุมด้านตรงหรือด้านข้าง โครงหน้าคุณก็จะดูเรียวเล็กลง. รูปหน้าเข้าที่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมเข้ากับภาพรวมของใบหน้า ให้คุณดูสวยขึ้น
ภาพก่อน-หลังการรักษาโปรแกรมหน้าเรียววีเชฟ ครั้งที่ 2
โปรแกรมฉีดโปรตีนลดขนาดกล้ามเนื้อกราม V-shape ที่ดี คือ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ได้โครงหน้าที่ออกมาเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกัน สามารถแสดงสีหน้าอารมณ์ได้ตามปกติ เช่น เวลายิ้มก็สามารถยิ้มได้สุด ยิ้มแล้วหน้าไม่แข็ง แก้มไม่ตอบและแก้มไม่ห้อยลง หน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยรวมดูเหมือนว่าหน้ายาวขึ้น แต่ในความเป็นจริงความยาวของหน้ายังเท่าเดิม เพียงแค่ส่วนกรามนั้นดูแคบลง จึงทำให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น และทำให้ดูสวยขึ้นนั่นเอง
โปรแกรมการฉีดโปรตีน ยังสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
เมื่อโครงหน้าดูหย่อนลง การวางแผนดูแลร่วมกับการ ยกกระชับหน้า ช่วยให้ภาพรวมผิวดูกลมกลืนมากขึ้น
เหมาะกับคนที่รู้สึกว่ากรามค่อนข้างใหญ่ โครงหน้าดูเป็นเหลี่ยม กรอบหน้าไม่ชัด หรือหน้าดูแข็ง เวลาอยากให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ใต้กรามไม่บานออกด้านข้าง แพทย์จะช่วยประเมินทั้งมุมตรงและมุมข้างก่อนวางแผนดูแลให้เหมาะกับแต่ละคน
หลักการใช้สารโปรตีนคล้ายกัน แต่ตำแหน่งและปริมาณยาที่ใช้ต่างกัน การฉีดลดกรามจะเน้นที่กล้ามเนื้อบดเคี้ยวบริเวณกราม เพื่อให้กล้ามเนื้อค่อยๆ คลายตัวและเล็กลง จึงมีผลช่วยให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น ไม่ได้เน้นเรื่องริ้วรอยบนผิวหน้าเป็นหลัก
ส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกว่ากัดไม่แน่นเท่าเดิม และรูปหน้าดูซอฟต์ลงในช่วงประมาณ 2–4 สัปดาห์หลังฉีด จากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ เล็กลง ทำให้มุมกรามดูลดมุมเหลี่ยมและหน้าโดยรวมดูเรียวยาวขึ้น
ผลของการฉีดโปรตีนลดกรามมักอยู่ได้ประมาณหลายเดือน จากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานมากขึ้น ในบางเคสแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดซ้ำช่วง 2 สัปดาห์–1 เดือนแรกเพื่อค่อยๆ ปรับรูปหน้า แล้วจึงเว้นระยะตามความเหมาะสมของแต่ละคน
ก่อนทำมักมีการทายาชาบริเวณที่จะฉีด จากนั้นระหว่างทำจะรู้สึกจิ๊ดๆ ชั่วขณะในจุดที่ฉีด หลายคนอธิบายว่าเป็นระดับที่พอทนได้ ใช้เวลาไม่นานต่อครั้ง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
หลังฉีดอาจรู้สึกตึงบริเวณกรามเล็กน้อยในช่วงแรก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่แนะนำหลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรงๆ หรือกดคลึงบริเวณที่ฉีด และเลี่ยงออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงวันแรกๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
กรณีที่กรามดูกว้างจากกล้ามเนื้อเป็นหลัก การฉีดโปรตีนมักช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า แต่ถ้ากรามใหญ่จากโครงกระดูกเป็นหลัก ผลที่เห็นอาจไม่เด่นเท่ากล้ามเนื้อ แพทย์จึงต้องประเมินก่อนทุกเคสว่าปัญหาหลักมาจากกล้ามเนื้อหรือกระดูก เพื่อแนะนำทางเลือกอื่นร่วมด้วยหากจำเป็น
โดยทั่วไปแพทย์จะกำหนดตำแหน่งฉีดและปริมาณยาตามตำแหน่งกล้ามเนื้อกรามของแต่ละคน เพื่อลดโอกาสที่รูปหน้าและรอยยิ้มจะดูผิดธรรมชาติ ในบางรายอาจรู้สึกว่ากัดไม่ถนัดหรือยิ้มต่างจากเดิมเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งมักค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อปรับตัว
ก่อนเข้ารับการรักษา แนะนำแจ้งประวัติการแพ้ยา ยาที่ใช้อยู่ และโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำหัตถการอื่นบริเวณกรามใกล้วันนัดฉีด และหากมีรอยช้ำหรือการอักเสบใดๆ บริเวณกราม ควรแจ้งให้ทีมแพทย์ประเมินก่อนทุกครั้ง
ส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกว่ากรามกลับมากัดแน่นขึ้น หรือรูปหน้าดูออกด้านข้างมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ หากสังเกตว่ารูปหน้าที่เคยเรียวเริ่มเปลี่ยนไป สามารถนัดเข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินซ้ำ และวางแผนระยะห่างของการฉีดครั้งต่อไปให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการผิดปกติควรพบแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพทุกครั้งก่อนตัดสินใจรับการรักษา