การมีไฝ ขี้แมลงวัน หรือกระเนื้อ ติ่งเนื้อ บนใบหน้าและลำตัว อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว จุดเหล่านี้กลับส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันไม่น้อยเลยค่ะ ยิ่งหากเป็นในตำแหน่งที่เห็นเด่นชัด เช่น ไฝที่ตา ไฝที่แก้ม ไฝที่ปาก หลายคนอาจลังเลว่าจะเอาไฝออกดีไหม หรือกลัวว่าหลังเอาไฝ ขี้แมลงวันออก แล้วจะทิ้งรอยแผลไว้แทนหรือเปล่า? กังวลว่าผิวจะดูไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม
โปรแกรมรักษาไฝ ขี้แมลงวัน ติ่งเนื้อ กระเนื้อ ต่อมเหงื่อใต้ตา ช่วยจัดการปัญหาจุดนูนและจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ให้ผิวดูกลมกลืนขึ้นตามตำแหน่งที่รบกวนสายตา
ในอดีต การกำจัดไฝมักใช้วิธีการที่มีเครื่องมือพื้นฐาน เช่น
แม้ว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยเอาไฝออกได้จริง แต่บางวิธีอาจทำให้มีการบาดเจ็บของผิวบริเวณข้างเคียงมากกว่า ซึ่งอาจทำให้ระยะเวลาฟื้นตัวนาน และต้องดูแลแผลอย่างระมัดระวัง
วิธีการกำจัดไฝในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ช่วยให้การกำจัดไฝมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น
การใช้เลเซอร์ที่สามารถช่วยควบคุมระดับความลึกของพลังงานได้ดีขึ้น และทำเฉพาะจุดที่ต้องการรักษา จึงลดโอกาสกระทบผิวรอบข้าง และระยะเวลาฟื้นตัวสั้นลง ทั้งนี้ การเลือกวิธีที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับชนิดของไฝ ขนาด และตำแหน่งของไฝด้วย
1.เครื่องเลเซอร์ที่มีเหมาะกับปัญหาผิว
โปรแกรมรักษาไฝ *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
รีวิวจากผู้ที่เคยทำเลเซอร์ไฝมาก่อน ช่วยให้คุณได้เห็นภาพการรักษาในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของคลินิก ขั้นตอนการรักษา ความรู้สึกระหว่างทำ และผลลัพธ์ที่ได้รับ โดยเฉพาะหากเป็นรีวิวจากแหล่งกลาง เช่น Pantip หรือ Google Reviews ซึ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น การอ่านรีวิวเหล่านี้ยังช่วยให้คุณเปรียบเทียบระหว่างคลินิกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาด และช่วยให้คุณเตรียมตัวทั้งด้านงบประมาณและความคาดหวังได้อีกด้วย
หากคุณกำลังมองหาคำตอบว่า “เลเซอร์ไฝที่ไหนดี?” สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ไม่ได้มีแค่เรื่องของราคา หรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ควรคำนึงถึงผลลัพธ์หลังการทำเลเซอร์ว่าผิวจะออกมาเป็นอย่างไร โดยต้องอาศัยเครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ แพทย์ที่มีความเข้าใจเรื่องผิวและการปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างรอบคอบ และช่วยให้ผิวบริเวณที่รักษาดูเรียบเนียน การกำจัดไฝออกจากผิวจึงมีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับที่คาดหวัง
เขียนบทความโดย
นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678
ในขั้นตอนทำมักมีการใช้ยาชาบริเวณผิวหนังที่ทำก่อน แล้วจึงเริ่มเลเซอร์จริง ทำให้ขณะทำรู้สึกเจ็บน้อยลง ส่วนใหญ่จะรู้สึกเป็นจุดร้อน ๆ หรือจี๊ดเล็กน้อยเป็นช่วง ๆ หลังทำอาจมีความรู้สึกตึง แสบ หรือระบมเล็กน้อยในระยะสั้น ซึ่งมักบรรเทาได้ด้วยวิธีประคบและยาที่แพทย์แนะนำ
หากเป็นไฝธรรมดา และบริเวณที่มีเซลล์ไฝถูกทำลายได้เพียงพอ โอกาสที่จุดเดิมจะกลับมาเห็นชัดมักลดลงมาก อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาจมีเงาหรือรอยจาง ๆ เหลืออยู่ หรือมีโอกาสที่ไฝบางส่วนโผล่ขึ้นมาอีกภายหลังได้ จึงควรติดตามผลตามนัด และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวบริเวณนั้นอย่างต่อเนื่อง
จำนวนครั้งขึ้นกับขนาด ความลึก และตำแหน่งของไฝ ไฝขนาดเล็ก ตื้น และสีไม่เข้มมาก หลายกรณีทำเพียง 1 ครั้งก็เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ถ้าไฝมีรากลึก อยู่ในตำแหน่งที่ผิวบาง หรือใกล้โครงสร้างสำคัญ แพทย์อาจวางแผนทำซ้ำเป็นรอบ ๆ เพื่อค่อย ๆ ลดเนื้อส่วนเกินลงทีละชั้น
หลังทำมักมีแผลตื้น ๆ หรือสะเก็ดเล็กน้อยบริเวณที่เลเซอร์ แนะนำให้
ทำความสะอาดตามวิธีที่แพทย์แนะนำ
ปิดแผลหรือใช้แผ่นปิดเฉพาะจุดตามคำแนะนำ
ทายาหรือครีมบำรุงตามที่แพทย์สั่ง
หลีกเลี่ยงแดดแรงและความร้อนจัดในช่วงแรก
การไม่แกะสะเก็ด ไม่ถูแรง และป้องกันแสงแดดช่วยให้รอยหลังเลเซอร์เรียบร้อยมากขึ้น
การเลเซอร์ไฝใช้ลำแสงเลเซอร์ควบคุมความลึกและขนาดของบริเวณที่ทำได้ค่อนข้างแม่นยำ เหมาะกับการเก็บรายละเอียดเฉพาะจุด ส่วนการจี้ด้วยไฟฟ้าหรือสารเคมีบางชนิดอาจมีขอบเขตการทำลายเนื้อเยื่อที่กว้างขึ้นหรือลึกไม่สม่ำเสมอ วิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของไฝ สภาพผิว และดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคส
หลังทำเลเซอร์ไฝอาจมีรอยแดงหรือรอยชมพูช่วงแรก จากนั้นค่อย ๆ จางลง ในบางรายอาจมีรอยคล้ำหรือรอยแผลเป็นเล็กน้อย โดยเฉพาะหากผิวไวต่อการเกิดรอยดำ หรือมีการเกา แกะสะเก็ด ลูบคลำซ้ำบ่อย ๆ การดูแลแผลให้เรียบร้อย เลี่ยงแดด และทาครีมกันแดดตามคำแนะนำ ช่วยลดโอกาสเกิดรอยถาวรลงได้
โดยทั่วไปแผลตื้น ๆ จะเริ่มแห้งและปิดภายในประมาณ 7–14 วัน ช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ระคายเคืองในบริเวณที่ทำ หลังจากนั้นยังอาจมีรอยแดงหรือน้ำตาลอ่อน ๆ อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนค่อย ๆ กลับมาใกล้เคียงสีผิวปกติ ระยะเวลารวมแตกต่างกันไปตามสภาพผิวและการดูแลหลังทำของแต่ละคน
สามารถทำได้ในหลายตำแหน่งในคราวเดียวกัน แต่จำนวนจุดที่เหมาะสมในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับขนาด ลักษณะ และตำแหน่งของไฝ รวมถึงการดูแลแผลภายหลัง หากเป็นบริเวณใบหน้า การแบ่งทำเป็นบางส่วนตามการประเมินของแพทย์อาจช่วยให้การดูแลแผลและการใช้ชีวิตประจำวันทำได้สะดวกขึ้น
ผู้ที่มีประวัติแผลนูนหรือคีลอยด์ง่าย ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง โรคผิวหนังในบริเวณที่จะทำ หรือใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ ควรแจ้งข้อมูลกับแพทย์ก่อนทุกครั้ง รวมถึงกรณีไฝที่มีสี รูปร่าง หรือขนาดผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติมหรือแนะนำทางเลือกอื่นแทน
แนะนำให้
สังเกตว่ารอยไฝเปลี่ยนแปลงขนาด สี หรือรูปร่างหรือไม่
ถ่ายรูปไฝมุมชัดเจนในแสงธรรมชาติเก็บไว้เปรียบเทียบ
เตรียมข้อมูลโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ และประวัติแผลเป็น
ระหว่างการปรึกษาสามารถสอบถามเรื่องขั้นตอน ผลลัพธ์โดยประมาณ ระยะพักฟื้น และการดูแลหลังทำ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเริ่มทำจริง
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์หรือใช้แทนการพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพผิวหรือหนังศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง