ปัญหาสิว (Acne) ถือเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังอันดับต้นๆ ที่พบบ่อยในประเทศไทยด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งในเชิง “ปัจจัยภายใน” และ “ปัจจัยภายนอก” เนื่องจากสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนชื้น ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงและความชื้นมากเกือบตลอดปี ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น จึงทำให้ผิวหน้ามันได้ง่าย รูขุมขนเกิดการอุดตันง่ายขึ้น เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามมา ดังนั้นการรักษาสิวอุดตันตั้งแต่เนิ่น ๆ ในช่วงที่สิวเพิ่งเริ่มเป็นและยังอยู่ในระดับเล็กน้อย จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดหลุมสิวได้ด้วย
เพราะผิวหน้าของเรานั้นสำคัญ เป็นในเรื่องของความมั่นใจ ผิวหน้าสามารถช่วยให้คุณมีโอกาสใหม่ที่ดีเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเข้าสังคม ผิวหน้าที่สุขภาพดี ไม่มีปัญหาสิว เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ การรักษาสิวให้ลดลงได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแค่ต้องเข้าใจสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงการรู้ว่าในชีวิตประจำวันของเรา จะมีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดสิวขึ้นมา วิธีรักษาสิวที่เหมาะสม เหมือนได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านสิว เพื่อเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้สิวลดลง ได้ผิวเนียนกระจ่างใสขึ้น หรือใครที่กำลังมองหาคลินิกรักษาสิวที่ไหนดีอยู่ ก็สามารถดูรายละเอียดและเก็บไว้เป็นตัวเลือกได้
ก่อนอื่นต้องมารู้ถึง 4 สาเหตุสำคัญของการเกิดสิวกันก่อน เพื่อที่จะได้รู้วิธีการรักษาสิวให้ลดลงได้ตั้งแต่ที่สาเหตุ เพราะถ้าเรารู้สาเหตุได้ชัดเจน บวกกับการรักษาที่ลงลึกตามสาเหตุ สิวจึงมีโอกาสลดลง และเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวได้ชัดเจนขึ้น หน้าใสขึ้น และสามารถลดการกลับมาของสิวได้อีกด้วย
4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว รูขุมขนอุดตัน, ต่อมไขมันอักเสบ, ติดเชื้อแบคทีเรีย C.acne, ฮอร์โมน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าปัญหาสิวของเราเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ คุณหมอสิวสามารถช่วยวิเคราะห์สาเหตุการเกิดสิว ในแต่ละคน ได้รับการรักษาสิวที่เหมาะสม สามารถทำให้คุณค้นพบกับสาเหตุของการเกิดสิวของคุณ
การกดสิวอุดตัน เป็นแนวทางหนึ่งที่ใช้เพื่อลดสิวอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะในกรณีของสิวที่ยังไม่เกิดการอักเสบ เช่น สิวอุดตันหัวเปิด การดูแลให้สิวอุดตันหลุดออกอย่างเหมาะสม อาจช่วยลดโอกาสที่สิวจะพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ ทั้งนี้การกดสิวควรดำเนินการโดยบุคลากรที่มีความรู้และใช้เครื่องมือที่สะอาด เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือรอยแผลที่อาจเกิดขึ้น การดูแลผิวหลังการกดสิว ร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ผิวฟื้นตัวอย่างเหมาะสม
เลเซอร์รักษาสิว ให้สิวลดลง จากการรักษาที่สาเหตุ ที่ต่อมไขมันอักเสบ แต่การใช้เลเซอร์รักษาแก้ปัญหาสิวนั้น ยังต้องอาศัยแพทย์ในการตั้งค่าพลังงานลงไปทำงานที่ “ต่อมไขมัน” เพื่อลงไปลดขนาดของต่อมไขมันให้เล็กลง จึงทำให้การอุดตันของผิวลดลง สิวอุดตันจึงลดลง หากคุณแพทย์ปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ก็สามารถทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น รวมถึงเลเซอร์ยังช่วยแก้ปัญหาสิวฮอร์โมนที่มีลักษณะเป็นสิวอักเสบ ซึ่งมักขึ้นรอบ ๆ ปาก คาง หรือกรอบหน้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบคทีเรีย C. acnes เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สิวอุดตันพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ ดังนั้นตัวช่วยการฉายแสงนี้ จะเข้ามาช่วยในการลดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ให้ลดลง ผลที่ได้ คือ จะช่วยลดความอักเสบของสิวและผิวให้ยุบลง ลดความมันของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ใครที่เป็นสิวเรื้อรัง สิวดื้อยา โปรแกรมฉายแสงเลเซอร์รักษาสิวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคุณได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และให้คำแนะนำว่าผิวของแต่ละคนควรทำกี่ครั้ง เพื่อให้แนวทางการดูแลสอดคล้องกับสภาพผิวของแต่ละคน
ตัวยากินและทายา รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสิวนั้น เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ขอให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาว และสามารถช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้แข็งแรง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิว และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิว
– ที่ไม่ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน Non-Comedogenic
– ที่ส่วนประกอบเป็น Oil-Free
– เลือกสารในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 3 ส่วน ได้แก่
1. สารปกปิดผิวเพื่ออุ้มน้ำไว้ (Occlusive) : Squalane, Dimethicone
2. สารที่ช่วยอุ้มน้ำใต้ผิว (Humectants) : Hyaluronic Acid, Glycerin, Panthenol
3. สารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น (Emollients) : Ceramides, Non-Comedogenic oil
รอยดำและรอยแดงจากสิว ที่เกิดจากการอักเสบของผิวและสิว แต่ก็ส่งผลต่อความเรียบเนียนของผิวอย่างเห็นได้ชัด การใช้เลเซอร์เป็นหนึ่งในแนวทางที่แพทย์ผิวหนังมักแนะนำ โดยจะเลือกชนิดเลเซอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาผิวแต่ละประเภท เช่น เลเซอร์ที่ช่วยลดการทำงานของเม็ดสี หรือเลเซอร์ที่ลดการอักเสบในชั้นผิว
ขั้นตอนการรักษาจะอยู่ภายใต้การประเมินและดูแลโดยแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีที่ใช้ตอบโจทย์ผิวของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม ทั้งในด้านพลังงานที่ใช้และความถี่ของการรักษา ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละคน ทั้งนี้การดูแลผิวหลังเลเซอร์ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่อ่อนโยน ก็เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูผิวและเสริมประสิทธิภาพของการรักษา
หักห้ามใจ ไม่บีบสิว ไม่แคะสิว ไม่แกะสิว เพราะจะทำให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดของหวานที่กินไปแล้วจะกระตุ้นให้สิวขึ้น, ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนต่อผิว ใส่ใจทำความสะอาด เช็ดคราบเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้าทุกครั้ง ล้างหน้าให้สะอาดเพียงวันละ 2 ครั้งก็พอ งดสูบบุหรี่ หรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารที่มีประโยชน์ ผักผลไม้หลากสีและดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
สิวไม่ใช่แค่ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นภายนอก แต่เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย เช่น ความมันส่วนเกิน ฮอร์โมน ความเครียด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว ซึ่งในแต่ละคนอาจมีสาเหตุไม่เหมือนกัน การวิเคราะห์อย่างละเอียดโดยแพทย์ที่ดูแลด้านสิว จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อได้รับการประเมินสภาพผิวอย่างถูกต้อง แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เช่น การใช้ยา การดูแลผิวร่วมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม หรือการปรับพฤติกรรมที่กระตุ้นการเกิดสิว โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้แนวทางที่คำนึงถึงสุขภาพผิวโดยรวม เพื่อให้การรักษาเห็นผลในระยะยาว และลดโอกาสที่สิวจะกลับมาเป็นซ้ำ
สิวอุดตันอาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก แต่หากละเลยหรือดูแลผิดวิธี อาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ หรือทิ้งรอยไว้ให้กวนใจได้ในระยะยาว การเข้าใจสาเหตุของสิวในแต่ละคน เป็นก้าวแรกของการดูแลที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมน พฤติกรรม หรือสภาพแวดล้อม
ในบางคนสิวอุดตันอาจพบร่วมกับสิวเม็ดเล็กที่ทำให้ผิวดูขรุขระ หากต้องการทำความเข้าใจลักษณะและการดูแลสิวผดเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ในบทความเกี่ยวกับ “สิวผดคืออะไร” และแนวทางดูแลสิวผดในชีวิตประจำวัน
การดูแลผิวด้วยแนวทางผสมผสาน ทั้งจากภายนอก (เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน, เลเซอร์) และจากภายใน (การพักผ่อน, อาหาร, ลดความเครียด) จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาดีขึ้นในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาคลินิกรักษาสิวที่ให้ความสำคัญกับการประเมินสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณเข้าใจผิวของตัวเองมากขึ้น และวางแผนการรักษาที่สอดคล้องกับสภาพผิวในแต่ละช่วงเวลา
เขียนบทความโดย
นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678
สิวอุดตันคือการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมัน (ซีบัม) และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบ่งเป็นสิวอุดตันหัวเปิด (หัวดำ) และสิวอุดตันหัวปิด (หัวขาว) หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ ต่างจากสิวอักเสบที่มักมีแบคทีเรียร่วมด้วย และแสดงอาการบวมแดง เจ็บ หรือมีหัวหนองชัดเจนมากกว่า
สิวอุดตันมักเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ทั้งการทำความสะอาดผิวไม่เหมาะสม การใช้สกินแคร์หรือเมกอัปที่อุดตันรูขุมขน การล้างหน้าไม่สะอาด ฮอร์โมน ความเครียด รวมถึงนิสัยชอบจับหน้า/ลูบหน้าในจุดเดิม ๆ จึงมักเห็นว่าสิวอุดตันขึ้นซ้ำบริเวณเดิม เช่น หน้าผาก คาง หรือกรอบหน้า การรักษาสิวอุดตันให้ดีขึ้นจึงต้องจัดการทั้งการอุดตัน และปัจจัยรอบตัวร่วมกัน
สิวอุดตันบางประเภทสามารถดูแลเบื้องต้นได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวและไม่ก่อการอุดตัน เช่น คลีนเซอร์อ่อนโยน มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา และยาทาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบางชนิด แต่การกดหรือบีบเองอาจทำให้ผิวอักเสบ ระคายเคือง หรือติดเชื้อได้ง่าย หากเป็นสิวอุดตันเรื้อรัง ขึ้นแน่นเป็นกระจุก หรือกลับมาเป็นซ้ำบ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวและสิวที่เป็นอยู่
การใช้สกินแคร์หลายชั้นเกินไป หรือมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับผิวมัน–ผิวเป็นสิวง่าย อาจยิ่งเสริมการอุดตัน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนัก มันมาก หรือมีน้ำหอม แอลกอฮอล์บางชนิด รวมถึงการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บ่อย ๆ โดยยังไม่ทันเห็นผลจากตัวเดิม การวางแผน “ลด–จัด–เลือก” สกินแคร์ให้เหลือเท่าที่จำเป็น และเหมาะกับการรักษาสิวอุดตัน เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ยารักษา
ไม่จำเป็นต้องกดสิวทุกเม็ด สิวอุดตันบางส่วนสามารถค่อย ๆ ยุบลงได้จากการใช้ยาทาหรือการผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม การกดสิวที่เหมาะสมช่วยนำหัวสิวออก ลดการอุดตัน และลดโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบ แต่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝน และใช้เครื่องมือสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงการช้ำหรือเป็นรอย การวางแผนรักษาสิวอุดตันมักใช้ทั้งการกดสิว ยาทา และการปรับสกินแคร์ร่วมกัน
ปัจจัยอย่างการนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันง่ายขึ้นในคนที่มีแนวโน้มเป็นสิวอยู่แล้ว แม้จะดูแลผิวหน้าดีแค่ไหน แต่หากปัจจัยภายในยังไม่สมดุล การรักษาสิวอุดตันอาจเห็นผลช้ากว่าที่ควร
ระยะเวลาในการรักษาสิวอุดตันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวเดิม พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการตอบสนองของผิวต่อการรักษา โดยทั่วไปมักเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในหลายสัปดาห์เป็นต้นไป ไม่ควรคาดหวังว่าสิวอุดตันจะหายหมดในเวลาไม่กี่วัน เพราะกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและการลดการอุดตันต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ
การเลือกคลินิกรักษาสิวอุดตันควรพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น มีแพทย์ที่ดูแลด้านผิวหนังคอยประเมิน วางแผนการรักษาจากสาเหตุของสิวแต่ละคน มีการซักประวัติ ตรวจสภาพผิว และอธิบายขั้นตอนรักษาอย่างเข้าใจง่าย ใช้หัตถการและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหาสิวอุดตัน รวมถึงมีการนัดติดตามผล เพื่อช่วยให้การรักษาและการป้องกันสิวกลับมาเป็นซ้ำทำได้ต่อเนื่องในระยะยาว
สิวอุดตันมีโอกาสกลับมาได้ หากปัจจัยกระตุ้นเดิมยังคงอยู่ เช่น การล้างหน้าไม่เหมาะสม การใช้สกินแคร์–เมกอัปที่อุดตันรูขุมขน นอนดึกหรือเครียดสะสม การรักษาสิวอุดตันจึงมักแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะจัดการปัญหาหลัก และระยะดูแลต่อเนื่อง (maintenance) เพื่อประคองสภาพผิวไม่ให้กลับมาอุดตันง่าย การร่วมมือกันระหว่างการรักษาที่คลินิกและการดูแลตนเองที่บ้านมีความสำคัญมาก
แนะนำให้
จดหรือถ่ายรูปยาทา ยากิน และสกินแคร์ที่ใช้อยู่
สังเกตว่ามักมีสิวอุดตันขึ้นบริเวณใดบ่อยที่สุด และเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอะไร เช่น นอนดึก ออกกำลังกายแล้วไม่ล้างหน้า ทาผลิตภัณฑ์บางตัวแล้วสิวเห่อ
หลีกเลี่ยงการกดหรือบีบสิวเองก่อนมาพบแพทย์
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์สาเหตุและวางแผนรักษาสิวอุดตันได้เหมาะกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล
การตัดสินใจรับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง โดยอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินสภาพผิวเป็นรายบุคคล