สาว ๆ ที่กำลังกลุ้มใจกับสิวฮอร์โมน หรือปัญหาสิวขึ้นคาง รอบปาก กรอบหน้า ซ้ำๆ เป็นๆ หายๆ สิวเก่ายังไม่ทันหาย สิวใหม่ก็ดันขึ้นซ้ำอีก สำหรับการรักษาสิวฮอร์โมนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณอ่านบทความนี้ให้จบ คุณจะได้รู้ถึงสาเหตุการเกิดสิวฮอร์โมน และวิธีการรักษาตามสาเหตุ เพื่อให้ปัญหาสิวที่เกิดจากฮอร์โมนลดลงได้
สิวฮอร์โมน มักพบในผู้หญิงช่วงอายุ 20–40 ปี โดยจะขึ้นบริเวณ “คาง รอบปาก และกรอบหน้า” ซ้ำๆ โดยเฉพาะในช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศในร่างกาย โดยเฉพาะ ฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น น้ำมันที่มากเกินไปจะสะสมบนผิวผสมกับผิวที่ตายแล้ว เกิดเป็นการอุดตันของรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบในที่สุด จากงานวิจัยพบว่า 65% ของคุณผู้หญิง มักมีสิวมากขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงที่มีการตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดบุตรแล้ว ก็ยังมีปัญหาสิวฮอร์โมนขึ้นอยู่ เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนนั่นเอง
สิวที่เกิดจากฮอร์โมนนั้น จะเป็นสิวอักเสบ ที่ขึ้นตรงคาง รอบปาก และกรอบหน้า เป็นส่วนใหญ่ และที่เห็นว่าสิวขึ้นซ้ำๆ อาจเป็นเพราะพอสิวอักเสบเริ่มยุบลง แต่ยังทิ้งรอยแดงไว้ที่ผิว และถัดไปอีกไม่นานประจำเดือนก็กำลังจะมาอีก จึงเหมือนกับว่าสิวเก่ายังไม่ทันยุบลง แต่ก็กำลังจะมีสิวใหม่เกิดขึ้นมาอีก นี่จึงเป็นปัญหากลุ้มใจของคุณผู้หญิงหลาย ๆ คนที่รู้สึกว่าสิวขึ้นอยู่วนๆ ซ้ำๆ อยู่ตรงที่เดิม ไม่ดีขึ้นสักที
หลายๆ คนมักเข้าใจว่าการเป็นสิวฮอร์โมน ต้องใช้ยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนในร่างกายและหวังว่าสิวจะลดลง ซึ่งวิธีการรักษาสิวฮอร์โมน มีหลายวิธีที่ช่วยดูแลจากสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน ดูแลรักษาสิวฮอร์โมนอย่างถูกวิธี จากแพทย์ประจำ BSL Clinic ที่จะไปช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันเพื่อทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันให้น้อยลง ที่ช่วยการเกิดสิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมการวิธีการรักษาอย่างผสมผสานกัน ซึ่งเหมาะกับผู้หญิงที่มีปัญหาสิวขึ้นที่คาง รอบปาก กรอบหน้า แนวทางการดูแลสิวฮอร์โมนนี้อยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
เทคโนโลยีเลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 nm ได้รับการออกแบบเพื่อส่งพลังงานลงลึกถึงระดับชั้นผิวที่มีต่อมไขมัน โดยไม่รบกวนผิวชั้นบน พลังงานจากเลเซอร์นี้มีคุณสมบัติที่ “มุ่งเป้าไปที่ต่อมไขมัน” ซึ่งอาจช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันได้ในบางราย ส่งผลให้ผิวหน้ามีแนวโน้มมันน้อยลง การดูแลสิวฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้ที่มีสิวขึ้นซ้ำบริเวณคาง รอบปาก หรือกรอบหน้า อาจใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกับแนวทางอื่น ภายใต้การประเมินของแพทย์ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันและอักเสบซ้ำ
ยากลุ่มนี้มีบทบาทในการลดความมันบนผิว ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสเกิดสิวอักเสบ โดยแพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมในการใช้ยา โดยยากลุ่มนี้อาจช่วยลดสิวได้ประมาณ 50–100% และช่วยลดความมันบนผิว และลดโอกาสการปะทุของสิวอักเสบได้เป็นอย่างดี หลังจากการรักษาแล้วประมาณ 3 เดือน และอาจแนะนำให้รับประทานต่อเนื่องตามดุลยพินิจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวในการบำรุงผิวที่ส่วนประกอบเป็น Oil-Free และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน Non-Comedogenic สารในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรมีคุณสมบัติ 3 ส่วน ได้แก่ 1. ปกปิดผิวเพื่ออุ้มน้ำไว้ 2. สารที่ช่วยอุ้มน้ำใต้ผิว 3. สารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
โดยหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน หรือสารปรอท ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงได้ในบางราย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สิวดีขึ้นในระยะแรก แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำหรือทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
การกดสิวอุดตันให้ออกจากผิว โดยส่วนใหญ่สิวตรงคาง สิวรอบปาก สิวที่กรอบหน้า จะเป็นสิวอักเสบร่วมกับสิวอุดตัน แพทย์จะพิจารณา โดยอาจมีการใช้ Program CO2 Laser ในการเปิดหัวสิวอุดตันก่อน เพื่อทำให้การกดสิวนั้นออกง่ายขึ้น และไม่ทำให้ผิวเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โปรแกรมฉายแสงรักษาสิว ที่จะช่วยลดการอักเสบของผิวและสิว ช่วยลดเชื้อแบคทีเรียสิวได้เป็นอย่างดี ตัวช่วยนี้เหมาะสำหรับสิวอักเสบเรื้อรังเป็นมานานแล้ว ลักษณะเป็นสิวดื้อยา เมื่อดูแลอย่างสม่ำเสมอ นอกจากปัญหาสิวอักเสบจะยุบลงได้เร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย หลังได้รับโปรแกรมฉายแสงรักษาสิวไปแล้ว จะรู้สึกได้ว่า ผิวกระจ่างใส และช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
โปรแกรมเลเซอร์นี้ได้รับการออกแบบให้ส่งพลังงานลงลึกถึงบริเวณต่อมไขมัน โดยมุ่งหวังช่วยลดความมันและลดปัจจัยที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว โดยไม่รบกวนผิวชั้นบน เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวซ้ำ ๆ โดยเฉพาะบริเวณคาง รอบปาก หรือกรอบหน้า การดูแลด้วยเลเซอร์นี้อาจใช้ร่วมกับแนวทางอื่นตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล



โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
การรักษาสิวฮอร์โมน ที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถลดสิว และลดโอกาสที่สิวจะกลับมาขึ้นซ้ำ ต้องอาศัยความเข้าใจจากแพทย์ผู้ประเมินการรักษา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิว และสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน การรักษาที่ดีไม่ใช่แค่ลดสิว แต่ควรช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว หากคุณกังวลเรื่องสิวฮอร์โมนที่เป็นซ้ำๆ การพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะบุคคลคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญค่ะ
เขียนบทความโดย
พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676
สิวฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันเกิดการอักเสบขึ้น โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือช่วงหลังคลอดบุตร สิวประเภทนี้ขึ้นซ้ำบริเวณคาง รอบปาก และกรอบหน้า ขณะที่สิวทั่วไปอาจเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับผิว
สามารถรักษาให้สิวดีขึ้นได้ เมื่อมีการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น ปรับพฤติกรรม ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ร่วมกับการรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น โปรแกรมเลเซอร์ลดการทำงานของต่อมไขมัน โปรแกรมฉายแสงลดการอักเสบ ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและฮอร์โมนของแต่ละคน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองและการอุดตันซ้ำ แต่หากเป็นสิวฮอร์โมนเรื้อรังควรได้รับการประเมินจากแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม
ระยะเวลาการดูแลขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปเริ่มเห็นผลใน 2 – 3 เดือน เมื่อได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
สิวฮอร์โมนมักเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ สิวหัวช้าง หรือสิวอุดตันลึก ที่ขึ้นบริเวณคาง รอบปาก และกรอบหน้า แล้วขึ้นซ้ำตำแหน่งเดิมเป็นรอบ ๆ ตามรอบเดือน ถ้าเห็นแพตเทิร์นแบบนี้ซ้ำ ๆ มีโอกาสเกี่ยวข้องกับสิวฮอร์โมนได้สูง
มักกำเริบช่วงก่อนมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือช่วงที่มีความเครียดสะสม รวมถึงบางคนที่มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย
ไม่ใช่ทุกเคสที่จำเป็นต้องใช้ยาคุมกำเนิดในการดูแลสิวฮอร์โมน แนวทางรักษามีทั้งการใช้ยากลุ่มที่ช่วยลดความมันบนผิว การรักษาด้วยเลเซอร์ที่มุ่งเน้นต่อมไขมัน การฉายแสง และการปรับสกินแคร์ แพทย์จะประเมินร่วมกับประวัติสุขภาพว่าในแต่ละคนเหมาะหรือควรหลีกเลี่ยงยาคุมมากกว่า
ยาบางกลุ่มมีบทบาทช่วยลดความมันบนผิวและลดโอกาสเกิดสิวอักเสบ แพทย์จะประเมินชนิดยา ขนาดยา และระยะเวลาที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยมักใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น เลเซอร์หรือโปรแกรมฉายแสง เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งสิวอักเสบและรอยที่ตามมาหลังสิวหาย
ควรพบแพทย์เมื่อสิวขึ้นซ้ำบริเวณคาง รอบปาก กรอบหน้าเป็นเวลานาน มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่หรือปวดบวมบ่อย ๆ ทิ้งรอยแดง–รอยดำชัดเจน หรือดูแลเองมาระยะหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้น การให้แพทย์ช่วยประเมินสาเหตุและวางแผนดูแลตามสภาพผิวของแต่ละคน จะช่วยให้เห็นแนวทางรักษาชัดเจนขึ้น
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการผิดปกติควรพบแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพทุกครั้งก่อนตัดสินใจรับการรักษา