คุณแพท ผู้ใช้บริการ “รักษาเหงื่อออกมากที่ฝ่ามือ” ที่ชีวิตประจำวันในการทำงาน ต้องพบเจอกับลูกค้าชาวต่างชาติทุกวัน ซึ่งการทักทายของชาวต่างชาตินั้น คือ การจับมือเพื่อเป็นการทักทายสวัสดี แต่ปัญหามีอยู่ว่า คุณแพทเป็นคนที่มีเหงื่อไหลออกจากฝ่ามือมากผิดปกติ ทำให้การจับมือกับลูกค้าแต่ละครั้งเกิดความไม่มั่นใจ และไม่ค่อยอยากจับมือกับลูกค้า กลัวลูกค้าจะรู้สึกไม่สบายใจ นอกจากปัญหาเรื่องการจับมือแล้ว เวลาจับปากกาเขียนหนังสือ ก็สร้างความลำบากด้วยเช่นกัน และมีอีกหลายอาชีพที่ปัญหามือเปียกจากเหงื่อ สร้างความไม่มั่นใจ เช่น วิศวกรเขียนแบบ ที่ต้องจับปากกาหรือดินสอเขียนแบบอยู่เป็นประจำ เหงื่อที่ไหลออกมาก็ทำให้งานเปรอะเปื้อน
ฝ่ามือเป็นอวัยวะที่สำคัญอยู่ไม่น้อย คนที่ฝ่ามือมีอาการ เหงื่อออกมากผิดปกติ บางคนถึงไม่ได้ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมใดที่เป็นการออกกำลัง แค่นั่งเฉย ๆ เหงื่อก็ไหลเยิ้มออกจากฝ่ามือแล้ว จึงสร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เช่น อาชีพที่ต้องพบเจอกับชาวต่างชาติ และต้องทักทายกันด้วยการจับมือ อาชีพเชฟที่ต้องทำอาหาร อาชีพวิศวกรที่ต้องเขียนแบบอาจทำให้กระดาษเปื้อน เหงื่อจึงถือได้ว่าเป็นอุปสรรคสำคัญมากในการทำงาน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และไม่ถูกสุขลักษณะด้านความสะอาด
รักษาอาการเหงื่อออกมากที่ฝ่ามือง่าย ๆ ด้วยโปรแกรมฉีดโปรตีนลดเหงื่อที่ฝ่ามือ ของ BSL ให้ชีวิตการทำงานราบรื่นขึ้น
วิธีการรักษาเหงื่อออกมากที่มือ ก็ไม่ได้ยุ่งยากถึงขนาดต้องผ่าตัด แต่เป็นโปรแกรมฉีดโปรตีนลดเหงื่อที่ฝ่ามือ สารตัวเดียวกับที่เราใช้ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นให้ผิวหน้า โดยเป้าหมายของการฉีด คือ เข้าไปที่กล้ามเนื้อเพื่อไปป้องกันการสั่งงานของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณไปที่ต่อมเหงื่อ ลดการรับส่งของเส้นประสาทบริเวณต่อมเหงื่อ ทำให้ต่อมเหงื่อทำงานได้น้อยลง จึงมีผลให้เหงื่อออกได้น้อยลง
ก่อนทำการรักษา แพทย์จะทำการประเมินอาการของโรคก่อน ว่าอาการเหงื่อออกมากนั้นเป็นมากน้อยแค่ไหน เพื่อทำการเตรียมตัวยา และตำแหน่งในการฉีด ตัวช่วยในการลดอาการเจ็บเวลาฉีด BSL เราจะทำการทายาชาที่ฝ่ามือทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ใช้บริการสามารถนอนหลับพักผ่อน รอเวลายาชาได้เลย
ครบเวลายาชาแล้ว เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดฝ่ามือด้วยแอลกอฮอล์ และคุณหมอจะทำการมาร์คตำแหน่งที่จะฉีด ว่าจะฉีดตรงไหนบ้าง เพื่อการรักษามีประสิทธิภาพ
ความรู้สึกขณะที่รักษา มีอาการรู้สึกเจ็บเล็กน้อย จะรู้สึกสบาย ๆ เพราะเจ้าหน้าที่มีการเป่าลมเย็นอยู่ตลอดเวลาที่รักษา
เหงื่อออกมากที่ฝ่ามือ ปัญหานี้ถ้าไม่เจอกับตัว คงไม่เข้าใจว่าใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการพัฒนาสามารถช่วยคุณได้ ใช้เวลาไม่นาน และทีมแพทย์ BSL ที่มีความเข้าใจในด้านการใช้โปรแกรมฉีดโปรตีนลดเหงื่อออกมากที่ฝ่ามือ จึงช่วยให้เหงื่อออกในปริมาณที่น้อยลงประมาณ 80–90% ภายในช่วง 7 วัน และคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 6–8 เดือน “โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล” หลังการรักษาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ให้คุณใช้ชีวิตได้มั่นใจขึ้น
BSL Clinic ขอขอบพระคุณ คุณแพท นภัสวรรณ ที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลการรักษา เพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกที่ฝ่ามือนะคะ
ในผู้ที่มีเหงื่อออกมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน การดูแลที่มุ่ง ลดเหงื่อ ควบคู่กับการจัดการกลิ่นตัวช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เหงื่อออกมือมากผิดปกติคือภาวะที่ฝ่ามือมีเหงื่อออกมากกว่าที่ใช้ในกิจกรรมปกติในชีวิตประจำวัน เช่น เหงื่อซึมตลอดเวลา จับของลื่น เขียนหนังสือแล้วกระดาษเปียก หรือรู้สึกไม่มั่นใจเวลาเข้าสังคม ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในที่ร้อนหรือออกกำลังกาย
สาเหตุของเหงื่อออกมือมีทั้งจาก
การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่กระตุ้นต่อมเหงื่อมากกว่าปกติ
พันธุกรรม บางคนมีคนในครอบครัวมีอาการคล้ายกัน
ความเครียด ตื่นเต้น หรือกังวล ซึ่งทำให้เหงื่อออกมากขึ้นชั่วคราว
ในบางรายอาจสัมพันธ์กับโรคหรือยาบางชนิด จึงควรแจ้งโรคประจำตัวและยาที่ใช้ในการปรึกษา
โดยทั่วไปถ้าคุณมีอาการเหล่านี้บ่อย ๆ ถือว่าเข้าข่ายเหงื่อออกมือมากกว่าปกติ
ฝ่ามือเปียกจนเห็นเป็นหยด เหงื่อไหลจนหยดจากมือได้
จับปากกา จับเมาส์ หรือจับโทรศัพท์แล้วรู้สึกลื่น
เขียนหนังสือแล้วกระดาษเปียกหรือเป็นรอยเปื้อน
เหงื่อออกแม้อยู่ในห้องปรับอากาศ และไม่ได้ออกแรง
ถ้าอาการเหล่านี้รบกวนการใช้ชีวิตหรือความมั่นใจ สามารถมาปรึกษาเพื่อวางแผนดูแลได้
ก่อนมาปรึกษาสามารถเตรียมข้อมูลดังนี้
ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการเหงื่อออกมือครั้งแรก และช่วงที่เป็นหนักที่สุด
สถานการณ์ที่เหงื่อออกชัด เช่น เจอคนเยอะ ประชุม นั่งเฉย ๆ หรือก่อนนอน
โรคประจำตัวที่มี และยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ
ถ้าเคยลองวิธีใดมาแล้ว เช่น ทายา แป้ง โรลออน หรือหัตถการอื่น ให้จดชื่อและผลที่เคยได้รับไว้
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้การประเมินสาเหตุและระดับความรุนแรงของเหงื่อออกมือชัดเจนขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
โดยทั่วไปมักแนะนำว่า
หลีกเลี่ยงการทาแป้งหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แรง ๆ ที่ฝ่ามือในวันนัด
ถ้ามียาทาหรือโรลออนสำหรับลดเหงื่อ ให้แจ้งชื่อผลิตภัณฑ์และวิธีใช้ เพื่อประเมินว่าจะหยุดหรือปรับอย่างไรในช่วงก่อนทำหัตถการ
ไม่จำเป็นต้องหยุดครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน ยกเว้นได้รับคำแนะนำเฉพาะเจาะจงให้เว้นก่อนวันตรวจ
เมื่อแจ้งข้อมูลครบ จะได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนสำหรับเคสของคุณ
ในบางราย ภาวะเหงื่อออกมืออาจสัมพันธ์กับโรคหรือยาบางชนิด เช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือการใช้ยาบางกลุ่มที่กระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ดังนั้นควรแจ้ง
โรคประจำตัวทั้งหมดที่เคยได้รับการวินิจฉัย
ยาที่ทานเป็นประจำ รวมถึงวิตามินและอาหารเสริม
เพื่อช่วยให้แยกได้ว่าเหงื่อออกมือของคุณมีแนวโน้มเป็นภาวะเฉพาะที่ หรือควรตรวจเพิ่มเติมในด้านอื่นร่วมด้วย
ระยะเวลาที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับวิธีที่ใช้และลักษณะของเหงื่อออกมือในแต่ละคน โดยทั่วไป
การใช้ผลิตภัณฑ์ทาภายนอก มักต้องใช้ต่อเนื่องหลายสัปดาห์จึงเริ่มสังเกตความแตกต่าง
หัตถการบางประเภทอาจทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น แต่ยังต้องมีการติดตามผลตามระยะที่แนะนำ
จุดสำคัญคือ การสังเกตอาการระหว่างทางและการมาติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับแผนให้เหมาะกับการตอบสนองของคุณ
ควรเตรียมใจใน 3 เรื่องหลัก ๆ คือ
ภาวะเหงื่อออกมือมักไม่ได้หายไปทันทีหลังเริ่มรักษา แต่สามารถค่อย ๆ ควบคุมอาการให้เบาลงได้
อาจต้องนัดติดตามผลหลายครั้ง เพื่อปรับวิธีหรือความถี่ให้เหมาะกับการตอบสนองของแต่ละคน
บางครั้งอาจมีอาการชั่วคราวบางอย่างหลังการรักษา ซึ่งโดยทั่วไปมักได้รับการอธิบายและวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้า
การเข้าใจภาพรวมก่อนเริ่ม จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจกับกระบวนการมากขึ้น
หลังเริ่มรักษาเหงื่อออกมือแล้ว การปรับพฤติกรรมต่อไปนี้ช่วยให้การควบคุมอาการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พยายามจัดการความเครียดและความกังวลด้วยวิธีที่เหมาะกับตัวเอง เช่น ฝึกผ่อนคลาย หายใจลึก ๆ หรือออกกำลังกายเบา ๆ
เลือกใช้ถุงมือหรืออุปกรณ์เสริมในสถานการณ์ที่ต้องจับของลื่นเป็นเวลานาน
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวมือระคายเคือง เช่น สบู่แรง ๆ หรือสารเคมีโดยตรง
รักษาความสะอาดและความชุ่มชื้นของผิวมือ เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากการเช็ดหรือเช็ดมือบ่อยเกินไป
การดูแลเหล่านี้ร่วมกับแผนการรักษาที่ได้รับ จะช่วยให้การควบคุมเหงื่อออกมือมีเสถียรภาพมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
เหงื่อออกมือมากผิดปกติสามารถกระทบทั้งการใช้งานมือและความมั่นใจในชีวิตประจำวันได้หลายด้าน เช่น จับปากกาแล้วลื่น เขียนหนังสือแล้วกระดาษเปียก ใช้เมาส์หรือมือถือแล้วรู้สึกหลุดมือ จับมือทักทายผู้อื่นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หรือกังวลเวลาออกงานพบปะผู้คน นอกจากนี้บางคนอาจกังวลเวลาใช้เครื่องดนตรี เล่นกีฬา หรือทำงานที่ต้องใช้มือจับอุปกรณ์ละเอียด การเข้าใจผลกระทบเหล่านี้ช่วยให้กำหนดเป้าหมายของการรักษาได้ชัดเจนขึ้น ว่าต้องการให้ดีขึ้นในเรื่องใดเป็นพิเศษในชีวิตประจำวันของตัวเอง
