Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ริมฝีปากอักเสบ

ริมฝีปากอักเสบ ปากแห้งลอก รู้ทันสาเหตุและวิธีดูแลอย่างถูกต้อง

ริมฝีปาก ถือเป็นอวัยวะหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา การรับประทานอาหาร การดูดน้ำ หรือการใช้แสดงอารมณ์ นอกจากนี้ริมฝีปากยังเป็นสื่อของความรู้สึกที่ดีต่อกัน ผ่านรอยยิ้มที่สดใส ที่มีผลต่อความสวยงามของใบหน้า แต่ถ้าหากเกิดปัญหา “ริมฝีปากอักเสบ” หรือ ริมฝีปากคล้ำ เกิดขึ้น แน่นอนว่าทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณในหลาย ๆ ด้านเลย

ปากแห้งลอก

สาเหตุของริมฝีปากอักเสบ ที่ทำให้คุณเสียความมั่นใจ

ปัญหานี้เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากภายนอกและภายในร่างกาย ได้แก่

  1. การแพ้สารสัมผัส ที่เกิดจากการที่ริมฝีปากไปใช้หรือสัมผัสสารเคมีที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เช่น
    • เครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก ซึ่งการแพ้เกิดได้ทั้งจากน้ำหอม สารให้ความชุ่มชื้น สี สารกันเสีย สารกันแดด menthol หรือโลหะผสมในแท่งหรือตลับลิปสติก เป็นต้น
    • ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เกิดการแพ้จากสารแต่งรส แต่งกลิ่น menthol เป็นต้น
    • ยาทาเล็บ และเล็บ acrylic ในรายที่มีนิสัยชอบกัดเล็บ
    • วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน
    • อาหารบางประเภท เช่น มะม่วง แครอท เปลือกส้ม
  2. พฤติกรรมที่ทำให้ริมฝีปากอักเสบจากการระคายเคือง เช่น จากการเม้ม เลียริมฝีปากบ่อย ๆ เนื่องจากในน้ำลายมีเอนไซม์หลายชนิดและอาจทำให้ริมฝีปากระคายเคืองได้
  3. ริมฝีปากอักเสบจากภูมิแพ้ผิวหนัง ในผู้ป่วยที่มีผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ซึ่งมีอาการคันบริเวณข้อพับเรื้อรัง และผิวแห้ง อาจมีริมฝีปากแห้งลอกร่วมด้วยได้
ปากแห้งลอก

อาการที่พบได้บ่อย

  • ริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย คือ ริมฝีปากดูแห้ง ไม่มีความชุ่มชื้น ผิวที่ปากอาจหลุดลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ เล็ก ๆ
  • แสบร้อน คัน หรือรู้สึกตึงที่ปาก คือ รู้สึกไม่สบายที่ปาก เช่น ปากแสบเหมือนโดนของร้อน คัน หรือปากตึง ๆ เหมือนผิวถูกดึง
  • มุมปากอักเสบ แดง เจ็บขณะอ้าปากหรือพูด คือ บริเวณมุมปากจะมีสีแดง อาจบวม เจ็บเวลาอ้าปากหรือพูดมาก ๆ
  • ในบางกรณีอาจลามไปยังผิวรอบริมฝีปาก คือ อาการเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดแค่ที่ปาก แต่ลามไปถึงผิวหนังรอบ ๆ ปาก เช่น มีผื่นแดงหรือแห้งลอกบริเวณใกล้ปากด้วย
ริมฝีปากอักเสบ

การวินิจฉัยอาการ

หากสงสัยว่าริมฝีปากมีอาการที่เกิดจากการแพ้สัมผัส การตรวจเพื่อหาสาเหตุของภาวะนี้ทำได้โดยการทำ patch test หรือการตรวจภูมิแพ้ผิวหนังด้วยการปิดแผ่นทดสอบบริเวณหลังหรือต้นแขน ด้วยสารมาตรฐานในชุดทดสอบและเครื่องสำอางของผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยในการวินิจฉัยภาวะผื่นแพ้สัมผัส

วิธีดูแลริมฝีปากเมื่อมีอาการอักเสบ

  1. หลีกเลี่ยงการเลียหรือเม้มปาก เพราะน้ำลายมีเอนไซม์ที่อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองยิ่งขึ้น
  2. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจกระตุ้นอาการแพ้ เช่น ลิปสติก ยาสีฟัน หรือน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของ menthol หรือสารแต่งกลิ่น
  3. ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดน้ำหอม และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น วาสลีน หรือขี้ผึ้งที่ปลอดภัย หรือลิปบาล์มที่ไม่มีสารแต่งกลิ่น สี หรือสารกันเสีย ทาบาง ๆ ที่ริมฝีปาก และใช้บ่อย ๆ เมื่ออยู่ในที่แห้งหรืออากาศเย็น
  4. หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและพิจารณาการใช้ยาลดการอักเสบภายใต้การควบคุมของแพทย์
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

สรุป

ริมฝีปากอักเสบแห้งลอกอาจเป็นเรื่องเล็ก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อผิวและสุขภาพช่องปากได้ การสังเกตอาการและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเป็นสิ่งสำคัญ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลด้านผิวหนังเพื่อการดูแลที่เหมาะสม

หากลองปรับพฤติกรรมและดูแลเองแล้วอาการริมฝีปากอักเสบยังไม่ดีขึ้น สามารถส่งรูปริมฝีปากและเล่าอาการเบื้องต้นให้แพทย์ช่วยประเมินแนวทางดูแลได้ที่

การพยากรณ์โรคในกรณีที่เกิดจากผื่นแพ้สัมผัส หากได้รับการตรวจพบสาเหตุและสามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือกรณีเกิดจากการระคายและสามารถงดเว้นการเลีย เม้มปาก อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นบทความโดย: อ. พญ. ปราณี เกษมศานติ์ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลhttp://dst.or.th/html/index.php?op=article-detail&id=1178&csid=14&cid=23#.WFeHfVOLSUk

คำถามที่พบได้บ่อย

ริมฝีปากอักเสบคือภาวะที่ริมฝีปากแห้ง แตก ลอก แดง หรือแสบคันมากกว่าปกติ บางคนมีแผลที่มุมปากหรือผื่นลามออกมาที่ขอบปากร่วมด้วย ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการระคายเคืองหรือการแพ้สารบางอย่างร่วมกับสภาพผิวที่แห้งง่าย

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การแพ้สารในลิปสติก ลิปบาล์ม ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เล็บและยาทาเล็บ วัสดุอุดฟัน หรืออาหารบางชนิด รวมถึงพฤติกรรมเลียปาก เม้มปากบ่อย ๆ และภาวะผิวแห้งจากโรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือสภาพอากาศแห้งจัด

ถ้าริมฝีปากแห้ง ลอก หรือแตกซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ควรคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะอาจมีปัจจัยกระตุ้น เช่น แพ้ผลิตภัณฑ์บางตัว เลียปากบ่อย หรือมีโรคผิวหนังบางชนิดร่วมอยู่ ควรลองสังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งที่สงสัยก่อน และหากไม่ดีขึ้นควรให้แพทย์ช่วยประเมิน

ไม่จริงค่ะ การเลียปากอาจทำให้รู้สึกชุ่มชื้นชั่วคราว แต่หากทำพฤติกรรมเลียปากต่อไปเรื่อยๆ ในน้ำลายมีเอนไซม์ที่สามารถทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น จะยิ่งทำให้ผิวริมฝีปากอักเสบขึ้นเรื่อยๆ ได้

ควรตรวจสอบส่วนผสมของลิปบาล์ม ให้สงสัยว่าอาจมีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ เช่น menthol, กลิ่นหอม หรือสารกันเสีย หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

เบื้องต้นแนะนำให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัย และเลือกใช้ลิปบาล์มสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมหรือสี หากอาการรุนแรงควรตรวจ patch test เพื่อหาสารก่อการแพ้จากแพทย์จะดีกว่า

มุมปากอักเสบจะเห็นเป็นรอยแดง แห้ง หรือแตกเป็นแผลเล็ก ๆ ที่ขอบมุมปากทั้งข้างเดียวหรือสองข้าง บางคนจะเจ็บหรือแสบเวลาอ้าปากกว้าง หรือพูดนาน ๆ หากปล่อยไว้นานอาจเรื้อรังและลอกซ้ำได้บ่อย

เบื้องต้นควรหลีกเลี่ยงการเลียหรือเม้มปาก งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสระคายเคือง เลือกใช้วาสลีน ขี้ผึ้ง หรือบาล์มที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ทาบาง ๆ บ่อย ๆ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และระวังไม่แกะหรือดึงหนังริมฝีปากที่ลอกออกแรง ๆ

หากริมฝีปากแดง ลอก แสบ หรือแตกเป็นแผลเรื้อรังต่อเนื่องเกิน 1–2 สัปดาห์ ทั้งที่พยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่สงสัยและดูแลด้วยตนเองแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน และพิจารณาการใช้ยาลดการอักเสบหรือการตรวจเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

การตรวจที่ใช้บ่อยคือ patch test โดยจะปิดสารทดสอบมาตรฐานและผลิตภัณฑ์ที่ใช้จริงบนผิวบริเวณหลังหรือแขนช่วงหนึ่ง แล้วดูว่ามีตำแหน่งใดเกิดผื่นหรืออักเสบขึ้นมา ช่วยระบุได้ว่ามีสารใดเป็นตัวกระตุ้นอาการริมฝีปากอักเสบของแต่ละคน

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจรับการรักษา

หากมีอาการดังข้างต้นหรือนอกเหนือจากนี้ ลองส่งรูปและเล่าอาการเบื้องต้นให้ทีมงานช่วยประเมินแนวทางดูแลได้ที่