Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Oxidative Stress คือ

Oxidative Stress คืออะไร?

ภาวะความเครียดจากอนุมูลอิสระ (Oxidative Stress) คือภาวะที่ร่างกายมี “อนุมูลอิสระ” (Free Radicals) มากเกินไป จนเกินความสามารถของระบบป้องกันตามธรรมชาติ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) อย่างวิตามินซี วิตามินอี หรือกลูตาไธโอน ที่จะจัดการได้ทัน ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเกิดความเสียหาย เสื่อม หรืออักเสบตามมา

ทำไมเราต้องใส่ใจ Oxidative Stress?

แม้กระบวนการออกซิเดชั่นจะเป็นเรื่องปกติของร่างกาย เช่นในการสร้างพลังงาน แต่เมื่อความสมดุลถูกรบกวน เช่น มีอนุมูลอิสระสะสมมากขึ้นจากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การนอนน้อย อาหารไขมันสูง การสูบบุหรี่ หรือมลภาวะ – ภาวะ Oxidative Stress ก็จะตามมา

ผลที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

  • การอักเสบเรื้อรัง
  • ความเสื่อมของเซลล์
  • ปัญหาสุขภาพทั่วไป เช่น ภูมิต้านทานต่ำ ปวดหัวบ่อย เป็นหวัดง่าย
  • เสี่ยงต่อโรคที่ซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือแม้แต่มะเร็งบางชนิด

เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ

  • แอปเปิ้ลปอกเปลือกแล้ววางทิ้งไว้จนกลายเป็นสีน้ำตาล
  • เนยที่เหม็นหืน
  • เหล็กที่เกิดสนิม

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของ “การออกซิเดชั่น” ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และในร่างกายของเราก็เกิดปรากฏการณ์คล้ายกัน เมื่อมีอนุมูลอิสระมากเกินไป โดยไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ

วิธีลดความเสี่ยงจาก Oxidative Stress

  • รักษาการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล ดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุสมบูรณ์ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไป เช่น อาหารทอดและอาหารแปรรูปต่างๆ
  • รับประทานผักอย่างน้อยสามหรือสี่ส่วน และผลไม้อย่างน้อยสามส่วนต่อวัน
  • ลดการดื่มกาแฟ ลองดื่มชามะลิหรือชาเขียวหลังมื้ออาหาร
  • การดื่มไวน์แดงหนึ่งแก้ว เพียงพอสำหรับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ หากรับประทานมากกว่าสองแก้วต่อวันคุณประโยชน์ที่ได้จะหายไปเนื่องจากผลกระทบของแอลกอฮอล์
  • ปฏิบัติตามโปรแกรมการฝึกอบรมที่ไม่หักโหมแต่เป็นปกติ เพื่อการรักษาสมดุล ไม่โหมเล่นกีฬาที่หนักเกินไปเพราะจะส่งผลในทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการฝึกอบรมที่ถูกวิธีมาก่อน
  • ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงมลภาวะที่เป็นพิษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • รักษาระดับน้ำตาล และควบคุมระดับไขมันและความดันในเลือด
  • นอนหลับให้เพียงพอและหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทำบ้าง
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแต่ละชนิด เช่น วิตามินหรือสมุนไพร เป็นต้น
Oxidative Stress คือ

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะเครียดจากอนุมูลอิสระ

  • ความเครียดเรื้อรัง
  • การรับประทานอาหารแปรรูป หรือไขมันสูง
  • การสูบบุหรี่
  • การนอนหลับไม่เพียงพอ
  • การได้รับมลภาวะ สารเคมี หรือรังสี UV
ภาวะเครียดจากอนุมูลอิสระ

อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงจาก Oxidative Stress

ผักและผลไม้มากมายหลายชนิด โดยเฉพาะผัก / ผลไม้ที่มีสีส้ม และผักใบเขียวต่าง ๆ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

  • จมูกข้าวสาลี ธัญพืช (ไม่ผ่านการขัดสี) ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ ไข่แดง และผักใบเขียว (วิตามินอี)
  • ผัก / ผลไม้ ที่มีสีส้ม แดง/เหลือง (วิตามินเอ และคาโรทีนอยด์)
  • ผักใบเขียวเข้ม
  • เนื้อสัตว์อินทรีย์ เช่น ตับ อาหารทะเล ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ (ทองแดงและซีลีเนียม)
  • เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ และอาหารทะเล (สังกะสี)

สรุป

ภาวะ Oxidative Stress ที่เกิดจากความไม่สมดุลระหว่าง “อนุมูลอิสระ” และ “สารต้านอนุมูลอิสระ” ในร่างกาย เมื่อปล่อยไว้นานเข้า โดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายให้เกิดการอักเสบ และปัญหาสุขภาพเรื้อรัง การปรับพฤติกรรม เช่น เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เป็นแนวทางที่ช่วยลดภาวะนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เขียนบทความโดย

พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะความเครียด

Oxidative Stress คือภาวะที่ร่างกายมี “อนุมูลอิสระ” มากเกินกว่าที่ระบบป้องกันของร่างกายหรือสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติจะรับมือได้ ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ เสี่ยงต่อการถูกทำลายง่ายขึ้น เมื่อเกิดสะสมในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งด้านร่างกายและผิวพรรณ

เกิดจากการสะสมของอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไป ซึ่งอาจมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การสูบบุหรี่ การได้รับมลภาวะเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป น้ำตาลสูง การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือความเครียดสะสม รวมถึงบางโรคเรื้อรังที่มีการอักเสบในร่างกายเป็นทุนเดิม

เมื่ออนุมูลอิสระมีมากเกินไป เซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ อาจเกิดการอักเสบ และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ภาวะ Oxidative Stress ถูกกล่าวถึงว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานบางประเภท ภาวะเสื่อมของระบบประสาท รวมถึงมะเร็งบางชนิด การลดปัจจัยเสี่ยงและเสริมสมดุลของระบบต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นเรื่องสำคัญในระยะยาว

โดยทั่วไปภาวะนี้มักไม่มีอาการจำเพาะเจาะจง แต่สัญญาณที่อาจพบร่วมด้วย เช่น รู้สึกอ่อนเพลียง่าย ป่วยติดเชื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อย ผิวพรรณดูหมองหรือฟื้นตัวช้าหลังโดนแดดหรือพักผ่อนน้อย มีอาการอักเสบหรือระคายเคืองซ้ำ ๆ ในบางส่วนของร่างกาย อย่างไรก็ตาม การจะสรุปว่ามี Oxidative Stress หรือไม่ควรอาศัยการประเมินด้านสุขภาพโดยรวมร่วมกับแพทย์

อนุมูลอิสระสามารถทำลายโครงสร้างสำคัญในผิว เช่น คอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวดูแห้ง หยาบกร้าน เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้รับแสงแดดจัด มลภาวะ สูบบุหรี่ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะ Oxidative Stress จึงมักถูกพูดถึงในบริบทของผิวหมอง เสื่อมสภาพเร็ว และสัญญาณของผิวที่แก่ก่อนวัย

แนวทางสำคัญคือการลดปัจจัยที่ก่ออนุมูลอิสระ และเสริมระบบต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย เช่น

  • รับประทานอาหารที่หลากหลาย โดยเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี

  • ลดอาหารทอด มันจัด หวานจัด และอาหารแปรรูป

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอในระดับที่เหมาะกับสุขภาพ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียด

  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ มลพิษ และการตากแดดจัดโดยไม่ป้องกัน

สารต้านอนุมูลอิสระมีหลายกลุ่ม เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน กลูตาไธโอน รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ที่พบได้ในผัก ผลไม้หลากสี ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว และเมล็ดพืช การรับจากอาหารที่หลากหลายมักเป็นวิธีที่เหมาะสมในภาพรวม สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิดอยู่แล้ว

มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการบางประเภทที่ใช้ประเมินภาวะ Oxidative Stress หรือระดับสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดในร่างกาย อย่างไรก็ตาม การแปลผลควรพิจารณาร่วมกับข้อมูลด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคประจำตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิต และยาที่ใช้อยู่ ไม่ควรใช้ผลเลือดเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจด้านสุขภาพระยะยาว

กลุ่มที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษสูง ผู้ที่มีโรคเรื้อรังบางชนิด ผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอ เครียดสะสม หรือรับประทานอาหารไม่หลากหลาย หากเป็นกลุ่มนี้ การปรับพฤติกรรมร่วมกับการติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดผลกระทบจาก Oxidative Stress ได้ในระยะยาว

สามารถเริ่มจากสิ่งที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น

  • เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหาร

  • ลดการดื่มน้ำหวานและอาหารทอดลงทีละน้อย

  • ขยับร่างกายให้ได้อย่างน้อยวันละเล็กน้อยสม่ำเสมอ

  • จัดเวลาเข้านอนให้คงที่มากขึ้น
    เมื่อเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แล้วจึงค่อยต่อยอดไปสู่การปรับพฤติกรรมด้านอื่น และหากมีโรคประจำตัวหรือกังวลเรื่องสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนที่เหมาะกับแต่ละคน

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์หรือใช้แทนการพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพผิวหรือหนังศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง

หากกำลังรู้สึกเหนื่อยง่าย นอนพอแต่ยังไม่สดชื่น ผิวดูหมอง หรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้วและอยากปรับไลฟ์สไตล์เพื่อลดภาวะเครียดในระดับเซลล์ สามารถปรึกษาได้ที่