ด้วยโปรแกรมเลเซอร์รักแร้ ลดตุ่มหนังไก่ กำจัดขนรักแร้ที่ BSL Clinic ลดโอกาสขนใหม่ให้ขึ้นน้อยลง หมดปัญหาหนังไก่
เป็นผู้หญิงสายลุย ชอบออกกำลังกาย ยกเวทยกดัมเบล อยากมั่นใจเหมือนคนอื่นบ้าง ไหนจะเหงื่อ ไหนจะขน อยากมีผิวใต้วงแขนที่ดูเรียบเนียนขึ้น ใส่ชุดไหน ยกแขนกี่ครั้งก็มั่นใจขึ้น คุณแนน สำราญ คุณครูสอนทำอาหารจากจังหวัดเชียงใหม่ ติดใจในผลการกำจัดขนรักแร้ และการปรับสภาพผิวรักแร้ให้ดูเรียบเนียนขึ้นที่ BSL Clinic ถึงขนาดนั่งเครื่องบินกลับมาหาเราเพื่อให้เราดูแลปัญหาผิวรักแร้ในการลดเหงื่อ และเลเซอร์รักแร้
การถอนขน การแว็กซ์ขน การโกนขน เป็นวิธีกำจัดขนได้ง่าย ๆ แต่ส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ อาจทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน เป็นตุ่มตอหนังไก่ ที่มักเกิดจากวิธีกำจัดขนเหล่านี้ หากคุณอยากกำจัดขนลงลึกตามรากขน BSL Clinic เรามีเทคโนโลยีที่ช่วยกำจัดขน ให้ผิวรักแร้ของคุณดูเรียบเนียนขึ้น พร้อมปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น ลดโอกาสที่ผิวจะเกิดปัญหาตุ่มหนังไก่
ระหว่างการทำเลเซอร์รักแร้ เจ้าหน้าที่จะมีการทาเจลเย็นให้ด้วยเช่นกัน ความเย็นจากเจลจะช่วยให้รู้สึกสบายมากขึ้น
กำจัดขนด้วยโปรแกรมเลเซอร์ แพทย์ BSL มีความเข้าใจในด้านการดูแลด้วยเลเซอร์ ที่สามารถปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้ลงลึกตามสาเหตุที่เส้นขน โดยมีผลต่อเนื้อเยื่อรอบข้างและผิวด้านบนน้อย เลือกใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ขนที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย
คอร์สการดูแลรักษาขนของ BSL ประมาณ 8 ครั้ง ก็จะรู้สึกว่าเส้นขนที่เป็นสีดำ การเกิดใหม่ของเส้นขนจะดูน้อยลง ทั้งนี้สามารถให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหา และประเมินจำนวนครั้งในการรักษาที่เหมาะกับคุณได้
เส้นขนหนาจะสามารถนำพาพลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์ลงไปที่รากขนได้ดี เหมือนเส้นลวดที่หากเส้นลวดใหญ่สามารถนำพาความร้อนได้ดี แต่เราควรปล่อยความร้อนในระยะเวลาที่นานพอ เพื่อให้ความร้อนนั้นเดินทางไปสู่ปลายเส้นลวดได้ และสิ่งที่ควรระวังหากใช้ความร้อนที่เยอะ ๆ แต่ปล่อยไม่ค่อยถึงรากขน แบบนี้อาจทำให้ผลออกมาไม่มีประสิทธิภาพ และอาจเป็นการทำให้ผิวด้านบนระคายเคืองได้ด้วย ดังนั้นการตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเส้นขนาของแต่ละบุคคล เป็นปัจจัยสำคัญที่แพทย์จะพิจารณาในการรักษา
* แนะนำให้คนไข้กลับมาทำเดือนละ 1 ครั้ง
BSL Clinic ขอขอบคุณ คุณแนน สำราญ คุณครูสอนทำอาหาร ที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลการรักษา เพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ที่มีปัญหาขนรักแร้
รีวิวเลเซอร์ขน เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของขนและผิวใต้วงแขนหลังทำเลเซอร์
เลเซอร์รักแร้ช่วยลดการพึ่งการโกน ถอน หรือแว็กซ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดตุ่มตอหนังไก่ พอกำจัดขนได้ลึกถึงรากขน ขนใหม่ขึ้นน้อยลง ผิวจึงมักดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอขึ้นเมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง
แนวทางจะเน้นลดโอกาสที่ขนใหม่จะขึ้นน้อยลง พร้อมช่วยให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบขึ้นและดูกลมกลืนกับสีผิวบริเวณรอบ ๆ โดยใช้พลังงานเลเซอร์ลงไปตามแนวรากขน และดูแลผิวรอบข้างไม่ให้ระคายเคืองเกินจำเป็น
ในคอร์สของ BSL ประมาณ 8 ครั้ง หลายคนเริ่มรู้สึกว่าขนสีดำดูน้อยลง การเกิดใหม่ของเส้นขนเริ่มห่างขึ้น และผิวโดยรวมดูเรียบกว่าเดิม จำนวนครั้งจริงขึ้นกับสีและความหนาของขนแต่ละคน แพทย์จะช่วยประเมินเป็นรายบุคคล
ระหว่างทำจะมีการทาเจลเย็นบริเวณรักแร้ ช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้น ตอนยิงเลเซอร์แต่ละช็อตมักรู้สึกจิ๊ด ๆ หรืออุ่น ๆ บริเวณรูขุมขน โดยทั่วไปใช้เวลาไม่นาน และหลายคนสามารถทนได้สบายในระดับหนึ่ง
เพราะสีและความหนาของเส้นขนมีผลต่อการเลือกช่วงคลื่นและระดับพลังงานเลเซอร์ เส้นขนสีเข้มมักตอบสนองต่อพลังงานแบบหนึ่ง ส่วนเส้นขนที่อ่อนลง หรือเส้นขนที่บาง-หนาไม่เท่ากัน อาจต้องผสมผสานเทคโนโลยีและการตั้งค่าที่ต่างกัน เพื่อให้เลเซอร์ลงถึงรากขนได้เหมาะสมในแต่ละคน
โดยทั่วไปแนะนำให้เลี่ยงแดดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดโรลออน 3–5 วัน และอาจโกนหรือถอนขนให้เหลือตอประมาณ 1–2 มิลลิเมตร เพื่อให้เลเซอร์ลงไปถึงแนวรากขนได้เหมาะสม ถ้าเพิ่งถอนขนมา ควรเว้นระยะให้ขนขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้ารับการรักษา
หลังทำแนะนำเลี่ยงแดด 1 สัปดาห์ งดใช้โรลออนประมาณ 3–5 วัน หลีกเลี่ยงการขัดถูหรือเกาแรง ๆ บริเวณที่ยิงเลเซอร์ เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง รูขุมขนอักเสบ หรือผิวแดงลอก และกลับมาทำซ้ำตามนัดโดยเฉลี่ยเดือนละครั้งตามแผนการรักษา
การโกน ถอน หรือแว็กซ์มักจัดการเฉพาะส่วนที่โผล่พ้นผิวหรือดึงขนออกทันที แต่มีโอกาสทำให้ผิวถลอก ระคายเคือง หรือเกิดตุ่มหนังไก่ได้ง่าย เลเซอร์รักแร้จะมุ่งส่งพลังงานลงไปที่รากขน เพื่อลดโอกาสที่ขนจะกลับมาขึ้นหนาแน่นเหมือนเดิมเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ
โดยทั่วไปมักแนะนำให้งดใช้โรลออน 3–5 วันหลังทำ หรือจนกว่าผิวจะกลับมาดูปกติ ไม่มีอาการแดงหรือตึงผิดปกติ จากนั้นจึงค่อยกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่อ่อนโยนตามคำแนะนำของแพทย์หรือทีมดูแลผิว
โดยทั่วไปจะแนะนำให้กลับมาทำเลเซอร์รักแร้ประมาณเดือนละครั้ง เพื่อให้ทันช่วงวงจรการงอกของเส้นขน และประเมินการตอบสนองของผิวและขนในแต่ละรอบว่าควรปรับพลังงานหรือรูปแบบการรักษาเพิ่มเติมหรือไม่
ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการผิดปกติควรพบแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพทุกครั้งก่อนตัดสินใจรับการรักษา