Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ดูดไขมัน

ดูดไขมัน คืออะไร มีเรื่องอะไรที่ควรรู้บ้าง?

ปัญหาไขมันส่วนเกินในบางจุดของร่างกาย ยังคงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากจัดการให้ได้อย่างเห็นผล แม้ว่าการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร หรือการนวดสลายไขมัน จะยังเป็นพื้นฐานที่ดี แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาไปไกล ทำให้ “การดูดไขมัน” กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปรับรูปร่างได้เร็วขึ้น และใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน

การดูดไขมัน (Liposuction) คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด โดยไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการกำจัดไขมันสะสมในชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อปรับรูปร่างและสัดส่วน เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือใต้คาง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีดูดไขมันหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน ที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคน รวมถึงสภาพผิวและรูปร่าง ทำให้การดูแลรูปร่างเป็นเรื่องที่สะดวก ดูแลได้ง่ายขึ้น และเฉพาะบุคคลมากขึ้น

ดูดไขมัน

สาเหตุของความอ้วน ไขมันสะสม

ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังโดยทั่วไปจะมีจำนวนคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อมีการขยายตัวของไขมัน เนื่องจากการสะสมของกรดไขมันทำให้ผู้ที่มีไขมันในปริมาณมากมีการขยายสัดส่วนมากกว่าผู้ที่มีไขมันในปริมาณที่น้อยกว่า

ไขมันส่วนเกินอาจเกิดจากปัจจัยหลากหลาย เช่น พฤติกรรมการกิน พันธุกรรม หรือฮอร์โมน การดูดไขมันช่วยกำจัดเซลล์ไขมันบางส่วนออกไป แต่ไม่ได้ยับยั้งการสะสมไขมันใหม่ หากไม่มีการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายร่วมด้วย

การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาความอ้วนหรือการลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีการดูดเอาไขมันออกจากชั้นผิวหนัง ซึ่งทำได้โดยใช้ท่อขนาดเล็กต่อกับเครื่องดูด เจาะผ่านผิวหนังเพื่อดูดไขมันที่ไม่ต้องการออก จุดมุ่งหมายคือ เพื่อลดปริมาณไขมันในบริเวณที่มีไขมันสูง ซึ่งเมื่อไขมันในร่างกายมีปริมาณลดลง และเมื่อมีการขยายตัวของไขมันนั้น จะไม่ทำให้สัดส่วนขยายมากเท่ากับช่วงก่อนผ่านการทำศัลยกรรม

ข้อควรรู้ก่อนดูดไขมัน

จุดที่ไขมันเกิดการสะสม และนิยมดูดไขมัน

– เหนียง ไขมันใต้คาง คอ แก้ม

– หน้าท้อง เอว สะโพก

– ต้นแขน ต้นขา

– เข่า น่อง

– หน้าอกชายที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Gynecomastia)

การดูดไขมัน เหมาะกับใคร

การดูดไขมันในหญิงชายที่มีสุขภาพดี และอายุยังน้อย มักได้ผลดีกว่าในผู้ที่มีอายุมาก เนื่องจากสภาพผิวหนังมีความยืดหยุ่น (Elasticity) มากกว่า เมื่อผ่านการดูดไขมันแล้ว ผิวสามารถกลับสู่สภาพเดิม และคงความกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ผลดีกับทุกเพศทุกวัยที่มีสุขภาพแข็งแรง

  • ผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้าม

  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวคงที่ แต่ต้องการปรับรูปร่างเฉพาะจุด

  • ผู้ที่เข้าใจผลลัพธ์และมีความคาดหวังอย่างเหมาะสม

 หมายเหตุ การดูดไขมันไม่ใช่ทางลัดในการลดน้ำหนัก และไม่ใช่การรักษาโรคอ้วน

ดูดไขมัน

การดูดไขมันต้องวางยาสลบไหม

การดูดไขมันในบริเวณพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถใช้เพียงการฉีดยาชาเฉพาะที่ แต่ในกรณีของการดูดไขมันในพื้นที่ขนาดใหญ่ อาจใช้การให้ยาชาเฉพาะส่วน (Regional Anesthesia) หรือการวางยาสลบ (General Anesthesia) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

การดูดไขมันอันตรายหรือไม่?

โดยทั่วไป การดูดไขมันถือเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ เมื่อทำอย่างเหมาะสม หากดำเนินการโดยแพทย์มีความรู้ และเครื่องมือที่ดำเนินการได้ภายใต้การดูแลที่เหมาะสม จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งอเมริกา (American Society of Plastic Surgeons – ASPS) ระบุว่าในแต่ละปีมีผู้เข้ารับการดูดไขมันในสหรัฐอเมริกามากกว่า 200,000 ราย และพบอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระดับต่ำ (ต่ำกว่า 1%)【ASPS, 2023】

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังสามารถเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวม ช้ำ หรือการติดเชื้อ ดังนั้นผู้ที่สนใจควรเข้ารับการประเมินกับแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เข้าใจข้อจำกัด ความเหมาะสม และแนวทางดูแลอย่างถูกต้อง

ข้อควรรู้ก่อนดูดไขมัน

ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง

  • 1-2 สัปดาห์แรก บริเวณที่ดูดไขมันอาจมีลักษณะจ้ำเลือด แต่หลังจากนั้นจะจางลงไปเอง

  • อาจมีอาการชาบริเวณรอยแผล ซึ่งจะจางลงใน 2-3 เดือน

  • การติดเชื้อมีโอกาสต่ำ หากเกิดขึ้น สามารถใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) รักษาได้

ข้อควรรู้ก่อนดูดไขมัน

การดูแลหลังการดูดไขมัน

หลังการดูดไขมัน แพทย์จะปิดแผลไว้ด้วยเทป หรือใช้สเตย์ รัดบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อประคองผิวด้านในรอยแผลประมาณ 5-7 วัน ยกเว้นกรณีดูดไขมันบริเวณท้อง ที่อาจต้องใส่สเตย์ต่อไปอีก 2-4 สัปดาห์ เพื่อประคองกล้ามเนื้อให้เข้ารูป โดยปกติรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันมีพื้นที่เล็กมากจึงอาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และแผลจะหายเป็นปกติได้ทันทีหลังการดูดไขมัน และกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน 3–4 วันหลังการดูดไขมัน ควรงดออกกำลังกายในช่วง 3 – 4 สัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการขยายของไขมันที่เหลืออยู่ อันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสัดส่วนเกินได้อีก

– สวมผ้ายืดรัด (สเตย์) ตามคำแนะนำของแพทย์

– งดออกกำลังกายอย่างหนักใน 3 – 4 สัปดาห์แรก

– ดูแลแผลให้สะอาด และมาพบแพทย์ตามนัด

– ปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการกลับมาของไขมัน

ดูดไขมัน

สรุป

การดูดไขมันเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยปรับรูปร่างให้เหมาะสมกับสัดส่วนเฉพาะบุคคล แม้จะไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักโดยตรง แต่สามารถช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้ในบางบริเวณ ทั้งนี้ ควรได้รับการประเมินและดูแลโดยแพทย์ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับร่างกายแต่ละคน และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดไขมัน ลดสัดส่วนรูปร่าง ที่ไม่ใช่การดูดไขมัน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

เขียนบทความโดย

นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นหัตถการที่ช่วยลดปริมาณไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หรือเหนียง เพื่อปรับสัดส่วนและรูปร่างให้สมดุลมากขึ้น ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักหลักเหมือนการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ผู้ที่เหมาะมักเป็นคนที่น้ำหนักค่อนข้างคงที่ แต่อยากเก็บรายละเอียดส่วนเกินบางจุดที่ลดเองได้ยาก

ในระหว่างการดูดไขมัน ผู้เข้ารับบริการจะได้รับยาชาหรือยาระงับความรู้สึก ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยขณะทำ แต่หลังจากทำเสร็จแล้ว อาจมีอาการระบมหรือปวดตึงเล็กน้อยในช่วง 2–3 วันแรก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย แพทย์จะให้คำแนะนำเรื่องการใช้ยาแก้ปวดและวิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความไม่สบายตัวอย่างเหมาะสม

ความยืดหยุ่นของผิวแต่ละคนแตกต่างกัน โดยเฉพาะผู้ที่อายุน้อย หรือมีพื้นฐานผิวแน่นกระชับ มักฟื้นตัวและกระชับได้ดีกว่า ในบางกรณีอาจเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ ซึ่งสามารถช่วยลดโอกาสได้ด้วยการใส่ชุดกระชับหลังทำ การดูแลผิวให้ชุ่มชื้น และในบางเคสอาจพิจารณาหัตถการที่เน้นการกระชับผิวร่วมด้วย หากกังวลเรื่องนี้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน

โดยทั่วไปสามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ภายในประมาณ 3–4 วันหลังการดูดไขมัน แต่ควรงดกิจกรรมหนักหรือการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากประมาณ 3–4 สัปดาห์ เพื่อให้แผลและเนื้อเยื่อใต้ผิวฟื้นตัวได้เต็มที่ การใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนแรกมักช่วยลดอาการบวมและช่วยให้ผิวเข้าที่ได้ดีขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

หลังการดูดไขมัน ควรระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 5–7 วันแรก เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและให้แผลสมานตัวได้ดี การดูแลแผลให้สะอาดตามคำแนะนำ การรับประทานยาปฏิชีวนะและยาต่าง ๆ ตามแพทย์สั่ง การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำในปริมาณเหมาะสม และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรืออาหารบางชนิดที่อาจชะลอการฟื้นตัว ล้วนมีส่วนช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างราบรื่น

ไขมันที่ถูกดูดออกไปแล้วจะไม่กลับมาในตำแหน่งเดิมในรูปแบบเดียวกัน เพราะจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณนั้นลดลง อย่างไรก็ตาม หากรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย หรือไม่คุมเรื่องน้ำหนักโดยรวม ไขมันอาจสะสมเพิ่มเติมในส่วนอื่นของร่างกายได้ การดูดไขมันจึงควรทำร่วมกับการดูแลเรื่องอาหารและการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม

ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันมักเป็นคนที่น้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่ ไม่มีโรคที่เป็นข้อจำกัดสำคัญต่อการทำหัตถการ และมีไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ต้องการปรับรูปร่างเพิ่มเติม ไม่ควรมองการดูดไขมันเป็นวิธีลดน้ำหนักหลัก การประเมินร่วมกับแพทย์โดยดูจากสุขภาพโดยรวม ประวัติการรักษา และความคาดหวังต่อผลลัพธ์ จะช่วยให้เลือกแนวทางที่เหมาะสมได้มากขึ้น

โดยทั่วไปแนะนำให้ใส่ชุดกระชับต่อเนื่องประมาณ 4–6 สัปดาห์ ขึ้นกับตำแหน่งและปริมาณไขมันที่ดูดออกไป จุดประสงค์คือช่วยพยุงผิวและเนื้อเยื่อให้แนบเข้ารูป ลดอาการบวม และช่วยให้รูปร่างเข้าที่ได้สม่ำเสมอ ควรใส่ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำสำหรับแต่ละเคส

การดูดไขมันมักใช้แผลขนาดเล็กเพื่อใส่ท่อดูดไขมันเข้าไป แผลเหล่านี้โดยทั่วไปมีขนาดไม่ใหญ่มาก และมักซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นไม่ชัด เช่น รอยพับผิวหรือจุดที่ปกปิดด้วยชุดชั้นใน เมื่อแผลหายดีแล้วมักเหลือเป็นรอยจาง ๆ อย่างไรก็ตาม การดูแลแผลตั้งแต่ช่วงแรก เช่น ไม่ให้แผลอับชื้นหรือถูกรบกวนบ่อย จะช่วยให้รอยแผลเรียบร้อยยิ่งขึ้น

ก่อนเข้าปรึกษา ควรเตรียมข้อมูลน้ำหนักตัวโดยประมาณ ประวัติโรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ และจุดที่ต้องการปรับสัดส่วนให้ชัดเจน อาจถ่ายรูปมุมต่าง ๆ เก็บไว้เพื่อใช้เทียบผลในภายหลัง ระหว่างการปรึกษา สามารถสอบถามเรื่องขั้นตอนดูดไขมัน ระยะพักฟื้น ข้อจำกัด และความคาดหวังของผลลัพธ์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจร่วมกับแพทย์

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์หรือใช้แทนการพบแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง

หากกำลังพิจารณาการดูดไขมัน และยังมีคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งที่เหมาะสม ระยะพักฟื้น หรือการดูแลตัวเองหลังทำ สามารถส่งรูปบริเวณที่กังวลและเล่าไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทีมแพทย์ช่วยประเมินแนวทางการดูดไขมันและการดูแลเบื้องต้นได้ที่