Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแห้ง

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแห้ง

ผิวแห้งเป็นปัญหาที่พบบ่อย โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่แห้งจัด เนื่องจากผิวในชั้นหนังกำพร้า สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแห้งกร้าน แตก ลอกเป็นขุย และเกิดอาการคัน เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ผิวแห้งจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวประเภทนี้โดยเฉพาะ เพราะผิวแห้งมักมีลักษณะบอบบาง รูขุมขนเล็ก และอ่อนแอกว่าผิวประเภทอื่น ๆ จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ง่าย

ผิวแห้ง คืออะไร?

ผิวแห้ง (Dry Skin) คือ ภาวะที่ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติ (Sebum) ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ผิวจึงแห้งตึง หยาบกร้าน ลอกเป็นขุย หรือมีอาการคันร่วมด้วยได้ อาการเหล่านี้มักเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยกว่าปกติ หรือผิวสูญเสียน้ำมากเกินไป เช่น หลังล้างหน้าจะรู้สึกตึง ผิวไม่เรียบเนียน อาจเห็นริ้วรอยก่อนวัยชัดขึ้น หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจทำให้ผิวระคายเคืองง่าย และเกิดโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมาได้

ส่วนประกอบสำคัญที่ควรมีในครีมสำหรับผิวแห้ง

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้ผิว และลดโอกาสการระคายเคือง ส่วนผสมที่แนะนำ เช่น

Hyaluronic Acid คุณสมบัติช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิว

Ceramides คุณสมบัติช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียน้ำ

Glycerin / Urea / Sodium PCA ช่วยดึงความชุ่มชื้นจากอากาศสู่ผิว

Fatty acids และ Squalene สารที่ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงและอ่อนนุ่ม

Panthenol (Vitamin B5) สามารถช่วยลดการอักเสบและเสริมการซ่อมแซมผิว

วิธีดูแลผิวหน้าแห้ง ให้ผิวชุ่มชื่นสุขภาพดี

  • หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพราะน้ำร้อนลดน้ำมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของผิว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตน้ำมันที่มาเคลือบผิวหนังลดลง การขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงทำให้ผิวบางลง และผิวแห้งมากขึ้น
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะดึงน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งตึงมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม ซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นแดง คัน หรือแสบได้ง่าย รวมถึงสารระคายเคือง เช่น พาราเบน สีสังเคราะห์ หรือ SLS เนื่องจากผิวแห้งมักไวต่อสารกระตุ้นเหล่านี้เป็นพิเศษ
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ขณะที่ผิวยังหมาด เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  • หลีกเลี่ยงการสครับหน้าแรง ๆ หรือการใช้โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์
  • อยู่ในห้องที่มีความชื้นที่เหมาะสม โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือห้องแอร์

ประเภทผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวแห้ง

ครีมสำหรับผิวแห้ง

สรุป

ผิวแห้งอาจดูเหมือนปัญหาเล็กๆ แต่หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรัง และส่งผลต่อความมั่นใจในระยะยาว การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแห้งให้เหมาะกับสภาพผิว และใช้ส่วนผสมที่อ่อนโยน มีสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่เหมาะสมกับสภาพผิว ร่วมกับพฤติกรรมการดูแลผิวอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟูสมดุล และดูแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

หากคุณไม่แน่ใจว่าผิวของคุณเข้าข่ายผิวแห้งหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การดูแลผิวเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณมากที่สุด

เขียนบทความโดย

นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแห้ง

ผิวหน้าแห้งควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น กรดผลัดเซลล์ผิวความเข้มข้นสูง (AHA, BHA) หรือแอลกอฮอล์ รวมถึงการสครับหรือขัดผิวบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งตึงและระคายเคืองมากขึ้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าหรืออาบน้ำด้วยน้ำร้อนจัด เพราะความร้อนจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวได้ง่าย

ผิวหน้าแห้งมักเหมาะกับมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีมหรือบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้นค่อนข้างเข้มข้น และมีส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin) ร่วมกับส่วนผสมที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น เซราไมด์ (Ceramide) หรือกรดไขมันต่าง ๆ เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำและทำให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น

ควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้จะอยู่ในอาคาร เพราะรังสี UV ยังสามารถผ่านกระจกหรือสะท้อนเข้ามาได้ แนะนำให้เลือกกันแดดที่ให้ความชุ่มชื้นหรือมีคุณสมบัติช่วยบำรุงไปพร้อมกัน เพื่อลดโอกาสที่ผิวจะแห้งลอกและช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะในชีวิตประจำวัน

หากผิวหน้าแห้งจนเริ่มลอก แสบ หรือรู้สึกตึง ควรลดจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ให้เรียบง่ายลงก่อน เช่น ใช้เพียงคลีนเซอร์อ่อนโยน มอยส์เจอไรเซอร์ และกันแดด แล้วค่อย ๆ เพิ่มผลิตภัณฑ์อื่นทีละอย่างเมื่อผิวเริ่มสงบ การสังเกตว่ามีผลิตภัณฑ์ใดทำให้รู้สึกแสบหรือคัน ควรหยุดใช้ชั่วคราว และหากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

โดยทั่วไปสามารถเริ่มจากการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน ตามด้วยโทนเนอร์หรือเอสเซนส์ที่ให้ความชุ่มชื้น จากนั้นจึงลงเซรั่มบำรุง และปิดท้ายด้วยครีมหรือบาล์มเคลือบผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วงเช้าควรทากันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ส่วนกลางคืนสามารถเพิ่มมาสก์เนื้อครีมหรือครีมเข้มข้นขึ้นตามความเหมาะสมของผิว

ผิวหน้าแห้งมักขาดน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวดูแห้ง ลอก หรือเป็นขุย ส่วนผิวขาดน้ำคือผิวที่มีระดับน้ำในผิวไม่เพียงพอ แม้บางคนจะมีผิวมันแต่ก็ยังขาดน้ำได้ การเลือกครีมจึงควรดูทั้งสองปัจจัย หากผิวแห้งและขาดน้ำ ควรใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เติมน้ำให้ผิว (เช่น เซรั่มเนื้อบางที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น) และครีมที่ช่วยเคลือบผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ

สามารถใช้ได้ในบางกรณี แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะคนที่ผิวบอบบางหรือมีผิวลอกง่าย ควรเริ่มจากการใช้สัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง ใช้ในปริมาณเล็กน้อย และตามด้วยครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ หากมีอาการแสบ แดง หรือลอกมากผิดปกติ ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ก่อนปรับตารางการใช้ผลิตภัณฑ์อีกครั้ง

อากาศเย็นหรือแห้ง รวมถึงการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้มากขึ้น ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เช่น ครีมเนื้อเข้มข้นหรือออยล์บำรุงบางเบา เพิ่มความถี่ในการทาครีมในบริเวณที่แห้งมาก และดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศในห้องที่ใช้เวลาอยู่บ่อย ๆ ก็อาจเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผิวไม่แห้งเกินไป

โดยทั่วไปผิวอาจรู้สึกนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นได้ภายในไม่กี่วันเมื่อได้รับความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ แต่การปรับสมดุลผิวและเกราะป้องกันผิวโดยรวมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวเดิม พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน

หากผิวหน้าแห้งมากจนลอกเป็นแผ่น แดง แสบ คัน มีผื่น หรือมีแผลแตกเป็น ๆ หาย ๆ แม้จะปรับการดูแลผิวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม เช่น ภาวะผิวหนังอักเสบ หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง การประเมินแบบตัวต่อตัวจะช่วยให้ได้รับคำแนะนำการดูแลผิวและการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนมากขึ้น

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจรับการรักษา

หากมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน และยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มปรับสกินแคร์หรือเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงอย่างไร ให้แพทย์ช่วยประเมินแนวทางดูแลได้ที่