Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

โปรแกรมรักษา ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

ลดปัญหาเส้นผม ให้คุณมั่นใจขึ้น

ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

หนึ่งในปัญหาที่สร้างความกังวลใจไม่น้อย ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง อาจทำให้เสียบุคลิกภาพและขาดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ผมร่วงถาวร และทำให้การรักษาเพื่อให้ผมกลับมาหนาและดกดำอีกครั้งเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น

ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากระบบการไหลเวียนเลือดที่หนังศีรษะที่ไม่ดี ภาวะโภชนาการที่ขาดสมดุล หรือการที่ร่างกายขาดสารอาหาร วิตามิน หรือเกลือแร่บางชนิด รวมถึงกรณีที่มีฮอร์โมนดีเอชที (ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน) มากเกินไป อาจเกี่ยวข้องกับความเครียด หรือภาวะเจ็บป่วยจากโรคบางชนิด เช่น โลหิตจาง ไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน หรือภาวะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ภาวะผมร่วงที่เกิดกับคุณแม่หลังคลอด หรือเกิดจากการใช้สารเคมีใส่ผมต่าง ๆ เช่น การดัด ย้อม การใช้สเปรย์แต่งผมเป็นประจำ การติดเชื้อที่หนังศีรษะ เช่น เชื้อราบนหนังศีรษะ รังแค ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ อีกหลากหลายประการ หลายท่านจึงพยายามรักษาด้วยการซื้อยามาทา หรือแชมพูรักษาผมร่วงมาลองใช้ แต่ก็มักไม่สามารถทำให้ผมหยุดร่วงได้ เพราะไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุที่แท้จริง ดังนั้น แนวทางการหยุดผมร่วงจึงควรเริ่มจากการประเมินหาสาเหตุของปัญหาอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการดูแลและการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน โดยผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ในแต่ละวัน หากมีเส้นผมหลุดร่วงประมาณ 50–100 เส้น ถือว่าเป็นภาวะปกติ แต่ถ้าพบว่าเส้นผมร่วงมากเกินกว่า 100 เส้นต่อวัน เป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ นั่นเป็นอาการผมร่วงผิดปกติ หรือเป็นอาการของเส้นผมที่หักกลางซึ่งอาจมีการร่วงของขนในบริเวณอื่น ของร่างกายร่วมด้วย เช่น ขนคิ้ว หนวด หรือมีภาวะผิวหนัง หรือหนังศีรษะผิดปกติ เป็นต้น

ระยะการเจริญเติบโตและช่วงชีวิต (Hair Life Cycle)

แบ่งได้ ดังต่อไปนี้

  • ระยะที่หนึ่ง เป็นระยะที่เส้นผมงอกยาวขึ้น มีระยะเวลาประมาณ 3 ปี ประมาณ 90% ของผมทั้งศีรษะอยู่ในระยะนี้
  • ระยะที่สอง เป็นระยะที่เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
  • ระยะที่สาม เป็นระยะที่ผมเริ่มหลุดร่วง เนื่องจากรากผมค่อย ๆ เคลื่อนจากที่อยู่เดิมที่บริเวณรอยต่อชั้นไขมันและหนังแท้ขึ้นมา บริเวณตรงกลางหนังแท้เมื่อดึงเบา ๆ จะหลุดออกได้ง่าย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์
  • ระยะพัก เป็นช่วงที่รากผมหยุดพักการเจริญเติบโตไปอีกประมาณ 3–5 เดือน ก่อนที่ผมใหม่จะเริ่มขึ้น

สาเหตุหลักของอาการผมร่วงแต่ละแบบมีแตกต่างกัน

สาเหตุหลัก Alopecia Areata

มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ รูปวงกลมหรือวงรี และอาจมีอาการขนร่วงในบริเวณอื่นของร่างกายร่วมด้วย บางรายมีผมขึ้นได้เองในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี และบางรายกลับมีอาการผมร่วงได้อีก ประมาณ 50% ของอาการผมร่วงนี้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่รากผม ส่งผลให้การทำงานของรากผมลดประสิทธิภาพลง ทำให้ผมร่วง โดยมีหลายปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้ เช่น ความเครียด ความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์ หรือปัจจัยอื่น ๆ การดูแลรักษาอาการผมร่วงควรเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หากต้องการทำความเข้าใจลักษณะและแนวทางดูแลของ โรคผมร่วงเป็นหย่อม เพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ในบทความเรื่องโรคผมร่วงเป็นหย่อม

สาเหตุหลัก Telogen Effluvium

อาการผมร่วงอันเนื่องมาจากภาวะความเครียดของร่างกายและจิตใจ เช่น การเจ็บป่วย การผ่าตัด หลังคลอดบุตร อาการผมร่วงมักแสดงหลังเกิดภาวะเครียดประมาณ 2-3 เดือน เมื่อรักษาตามสาเหตุ และติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เส้นผมส่วนหนึ่งมักค่อย ๆ งอกขึ้นมาใหม่ภายในช่วงประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุและสภาพร่างกายของแต่ละคน

สาเหตุหลัก Chronic Telogen Hair Loss

อาการผมร่วงเรื้อรังในผู้หญิง มีอาการคล้ายโรคผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ที่ส่งผลให้ความหนาของเส้นผมลดลง แต่ไม่มีที่ว่างระหว่างเส้นผม (มีช่องไฟปกติ) การรักษาต้องหาสาเหตุอย่างจริงจังเพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาตามสาเหตุ โดยการตรวจสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ตรวจร่างกาย เจาะเลือดเพื่อหาความผิดปกติ ในบางท่านเกิดจากภาวะขาดสารอาหารบางอย่าง การรับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 และไลซีน ซึ่งอยู่ในไข่แดงและเนื้อสัตว์ อาจช่วย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูแลรักษาตามสาเหตุและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เส้นผมส่วนหนึ่งมักค่อย ๆ งอกขึ้นมาใหม่ภายในช่วงประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี

สาเหตุหลัก Androgenetic Alopecia

อาการผมร่วงอันเนื่องมาจากภาวะทางพันธุกรรม และการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) ซึ่งมีมากขึ้นตามอายุ ในเพศชายอาจเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยมักมีผมบางบริเวณชายผมด้านหน้าหรือกลางกระหม่อม ขณะที่ในเพศหญิงมักแสดงอาการผมบางกลางศีรษะ เส้นผมด้านหน้ามีขนาดปกติ แต่จำนวนเส้นผมลดลง ทำให้ผมดูบางลง

นอกจากนี้ สาเหตุของผมร่วงยังมีอีกมาก เช่น

  • ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
  • SLE
  • การขาดสารอาหารจำพวกโปรตีนหรือธาตุเหล็ก
  • การติดเชื้อซิฟิลิส
  • การใช้ยารักษาโรคมะเร็ง
  • การใช้แรงในการดึงรั้งเส้นผม เช่น การรัดผมที่แน่นเกินไป
  • อาการผมร่วงในเด็กอาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อราที่หนังศีรษะ ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมในบริเวณที่ติดเชื้อ
การรักษาผมร่วงจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชาย

การรักษาผมร่วงจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชายที่เปลี่ยนแปลง (Androgenetic Alopecia)

ปัจจุบันมียาหลายกลุ่มที่ใช้ในการรักษาผมร่วงชนิดนี้ เช่น minoxidil, finasteride และ dutasteride โดยมีงานวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนในบางด้าน การใช้ยาควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ทั้งชนิดยา ปริมาณ และระยะเวลา ซึ่งอาจมียาทาหรือยารับประทานควบคู่กันไปด้วย การใช้ยาควรอยู่ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาปริมาณยาที่ให้ และระยะเวลาในการใช้ไม่ควรหยุดยาด้วยตัวเอง เพราะการหยุดยาโดยกะทันหันอาจทำให้อาการผมร่วงกลับมาอีก1,2,3

  • ยาทา Minoxidil มีฤทธิ์กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ขนาดของเส้นผมขยายเกือบเท่าตัว1 โดยจำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อหยุดยา อาการผมร่วงอาจจะกลับมาได้ ยาชนิดนี้ใช้ได้ทั้งชายและหญิง2
  • ยาทา finasteride 0.05% สามารถลดระดับฮอร์โมน Testosterone ที่หนังศีรษะได้สูงถึง 40% จึงช่วยลดอัตราการเกิดผมร่วงในชายและหญิงได้4
  • ยารับประทาน Minoxidil ทำให้ผมขึ้นดกหนาที่หนังศีรษะ ขนตา ขนตามตัว แขนและขา ในระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ผลกระทบข้างเคียง ในบางคนอาจมีอาการบวมบริเวณรอบขอบตาหรือหน้า ถ้าผมขึ้นแล้วต้องค่อยๆ ลดปริมาณยา หากหยุดยาทันที ผมจะกลับมาร่วงใหม่ และเมื่อเริ่มให้ยาอีกครั้ง ต้องเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่า เพราะอาจมีอาการดื้อยา ไม่ควรใช้ในเพศหญิงเพราะทำให้หนวดขึ้น3
  • ยารับประทาน Finasteride ในเพศชายภายหลังการรักษา 3-4 เดือน พบว่าประมาณ 70 % ของผู้ป่วย มีผมงอกใหม่ขึ้นมา แต่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี5
  • ใช้แชมพูที่มีตัวยาช่วยลดอาการผมร่วงและเสริมการสร้างผมใหม่และรากผมให้แข็งแรง8 สระผมทุก 1–2 วัน ต่อเนื่องประมาณ 3–6 เดือน ซึ่งในบางรายอาจช่วยให้ผมร่วงลดลง และเส้นรากผมดูแข็งแรงขึ้น โดยการรักษาจะมีแพทย์ประเมินอาการ แนะนำการรักษาตามสาเหตุของแต่ละคน และติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด
  • เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพตามแผนที่วางไว้ ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาใช้ตัวยาทั้ง 3 ชนิดร่วมกัน
  • ยาอื่น ๆ ที่อาจได้ผลในบางราย เช่น Cimetidine, Flutamide, Spironolactone และสารสกัดจากชาเขียว โดยการรักษาขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์11
  • การปลูกผม โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีหนึ่งซึ่งใช้ในการรักษาผมร่วงเนื่องมาจากพันธุกรรม ปัจจุบันการปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาผมร่วงจากพันธุกรรม หลายคนสามารถหวีและจัดทรงได้ตามปกติ แต่อาจต้องทำหัตถการมากกว่าหนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณเส้นผมที่หลุดร่วงและสภาพหนังศีรษะ ผลลัพธ์ด้านความหนาและลักษณะเส้นผมแตกต่างกันในแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินแนวทางที่เหมาะสม12

ผสมผสานเทคโนโลยีการรักษา

BSL’s Customized Laser Hair Regrowth Program กับ Meso Hair growth therapy Program

ผสมผสานเทคโนโลยีการรักษาผมร่วง

การรักษาด้วยยาทาเพียงอย่างเดียว บางครั้งอาจส่งตัวยาลงถึงรากผมได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผลการรักษาเห็นผลช้าลง แพทย์ที่ BSL จึงนำข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์มาประกอบการออกแบบแนวทางดูแลผมร่วง โดยผสมผสานการใช้ยาทากับเซรั่มที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับหนังศีรษะ ช่วยฟื้นบำรุงรากผม และอาจมีส่วนช่วยให้ผมใหม่งอกขึ้นตามธรรมชาติ ร่วมกับโปรแกรมเลเซอร์ BSL’s Customized Laser Hair Regrowth Program ที่มุ่งดูแลหนังศีรษะและรากผม เพื่อสนับสนุนการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง รวมถึงการทำงานของรากผม แนวทางแบบผสมผสานครั้งนี้อาจช่วยให้หลายคนรู้สึกว่าเส้นผมดูหนาและแข็งแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ฉายแสงเลเซอร์กระตุ้นรากผม

ฉายแสงเลเซอร์กระตุ้นรากผม

BSL Clinic กับวิธีการ “ฉายแสงด้วยเลเซอร์ที่หนังศีรษะ” เป็นวิธีที่ได้รับความพึงพอใจของคนไข้ในการดูแลปัญหาผมร่วง เนื่องจากมีงานวิจัยรองรับ จึงทำให้นำวิธีนี้มารักษากับผู้ใช้บริการที่มีปัญหาหนังศีรษะอ่อนแอนานหลายปี การฉายแสงด้วยเลเซอร์จึงเป็นตัวช่วยเสริมการรักษาเพื่อทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาด้วยการ “ปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด” ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับผู้ใช้บริการที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

ซึ่งวิธี “การฉายแสงเลเซอร์” นั้น จากผลการวิจัยพบว่าแสงเลเซอร์สีแดง (ที่มีความยาวคลื่น 660 นาโนเมตร) Laser Hair Regrowth (RED) Laser Program สามารถช่วยเร่งให้การไหลเวียนของโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ กระตุ้นการทำงานของรากผม ทำให้เส้นผมมีโปรตีนที่สำคัญส่งผลต่อกระบวนการสร้างเส้นผมเพิ่มขึ้นใหม่ ใช้เวลาในการทำประมาณ 20 นาที ในแต่ละครั้ง โดยทำต่อเนื่องกัน จะเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น จากการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ BSL ที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ หลายท่านรายงานว่ารู้สึกว่ามีเส้นผมใหม่ขึ้นมากขึ้น และมีความพึงพอใจต่อผลการรักษาจากการฉายแสงหนังศีรษะด้วยเลเซอร์

ฉายแสงเลเซอร์กระตุ้นราก

แพทย์จุฬาฯ ชนะเลิศงานวิจัยด้านการศึกษา "การใช้เลเซอร์ความเข้มข้นต่ำรักษาผมร่วงจากพันธุกรรม" (Low Level Laser Therapy)

Laser Hair Regrowth (RED) laser เป็นการใช้แสงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ เพื่อกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมที่มีสุขภาพดีขึ้น จากการศึกษาหนึ่งรายงานว่าผมอาจดกดำเงางามขึ้น10 จากการวิจัย ของรศ.(พิเศษ) ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป ในหัวข้อวิจัย “Proteomic Analysis in Dermal Papilla from Male Androgenetic Alopecia After Treatment with Low Level Laser Therapy” ได้รับรางวัลที่ 1 ในประเภทงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในรูปแบบของโปสเตอร์ ถึงประสิทธิภาพของกระบวนการฉายแสงด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ เพื่อดูแลรักษาปัญหาโรคผมร่วงที่เกิดจากพันธุกรรม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าการใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมนั้น ให้ผลดีในระยะเวลาประมาณ 24 สัปดาห์ โดยถือได้ว่าเป็นความสำเร็จของการศึกษาในประเทศไทย

อ่านข้อมูลงานวิจัยเพิ่มเติมที่ https://www.chula.ac.th/news/8714

ข้อดีของการรักษาผมร่วงด้วย Laser Hair Regrowth Program

ข้อดีของการรักษาผมร่วงด้วย Laser Hair Regrowth Program
  • เร่งให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะให้ทำงานได้ดีขึ้น
  • กระตุ้นการทำงานของรากผมเพื่อให้เกิดการสร้างผมใหม่
  • เกิดผมขึ้นใหม่ที่แข็งแรง ดำเงา
  • ช่วยฟื้นฟูเส้นผมและรากผมให้มีการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น
  • เพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับเส้นผม
  •  อาจช่วยลดปัญหาหนังศีรษะมันหรือแห้ง ลดรังแค และช่วยบรรเทาอาการคันในบางราย
  • ซ่อมแซมเส้นผมส่วนที่เสียหายจากการใช้สารเคมีในการดัดและทำสีผม
  1. Gupta AK, Talukder M, Williams G. Comparison of oral minoxidil, finasteride, and dutasteride for treating androgenetic alopecia. J Dermatol Treat. 2022;33(11):2946-2962. doi:10.1080/09546634.2022.2109567.
  2. Gupta A, Mays R, Dotzert M, et al. Efficacy of non‐surgical treatments for androgenetic alopecia. J Eur Acad Dermatol Venereol. 2018;32:NA. doi:10.1111/jdv.15081.
  3. Gupta AK, Venkataraman M, Talukder M, Bamimore M. Relative efficacy of minoxidil and the 5-α reductase inhibitors in androgenetic alopecia treatment. JAMA Dermatol. 2022;NA:NA. doi:10.1001/jamadermatol.2021.5743.
  4. Gupta AK, Talukder M, Williams G. Emerging and traditional 5-α reductase inhibitors and androgen receptor antagonists for male androgenetic alopecia. Expert Opin Emerg Drugs. 2024;NA:1-11. doi:10.1080/14728214.2024.2346590.
  5. Zhou Z, Song S, Gao Z, et al. The efficacy and safety of dutasteride compared with finasteride in treating men with androgenetic alopecia. Clin Interv Aging. 2019;14:399-406. doi:10.2147/CIA.S192435.
  6. Harcha WG, Martínez JB, Tsai T, et al. A randomized, active- and placebo-controlled study of dutasteride vs. finasteride in androgenetic alopecia. J Am Acad Dermatol. 2014;70(3):489-498. doi:10.1016/j.jaad.2013.10.049.
  7. Ding Y, Wang C, Bi L, et al. Dutasteride for the treatment of androgenetic alopecia: An updated review. Dermatology. 2024;NA:1-22. doi:10.1159/000541395.
  8. Kaiser M, Abdin R, Gaumond SI, et al. Treatment of androgenetic alopecia: Current guidance and unmet needs. Clin Cosmet Investig Dermatol. 2023;16:1387-1406. doi:10.2147/CCID.S385861.

ผลการรักษา

รักษาผมร่วง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

รักษาผมบาง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

รักษาผมร่วง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

รักษาผมร่วง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

รักษาผมบาง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

รักษาผมบาง

ภาพก่อน-หลังการรักษา 3 เดือน
“ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย”

อัปเดตเทรนด์ความรู้

FBCICM20205

การดูแลรักษาผิวจากงาน CICM 2025

คุณหมอวิภาณี ตัวแทน BSL เข้าร่วมงาน CICM 2025 เพื่ออัปเดตเทรนด์ความรู้ด้านการดูแลรักษาผิวและหนังศีรษะ แล้วนำข้อมูลดังกล่าวกลับมาปรับใช้ในการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการ
CICM 2025 Aesthetic Dermatology : Evidence Based Medicine ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และแพทย์ BSL ไม่เคยพลาดที่จะไปอัปเดตข้อมูลความรู้และงานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาทางด้านผิวหนัง สิว ฝ้า กระ ปัญหาผมร่วงและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการด้าน Aesthetic ยกกระชับผิวหน้า ลำคอ ลำตัว และการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน เพื่อให้ผิวสุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์

พญ. วิภาณี อัครภูษิต เลขว. 39676

เขียนบทความโดย:

พญ.วิภาณี อัครภูษิต (Wipanee Akarapusit M.D.)

แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39676