Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ผิวหนังอักเสบที่มือ

ผิวหนังอักเสบที่มือ (Hand Eczema) คืออะไร?

ผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง พบได้ที่ผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย แต่ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะพบผื่นผิวหนังอักเสบที่มือ หรือ แฮนด์ เอ็กซีม่า (Hand eczema) ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ควรจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการรักษาผิวแพ้ง่ายบริเวณมือ เนื่องจากมือเป็นอวัยวะที่มีการใช้หยิบจับสิ่งของ และสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ จึงควรปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง

วิธีดูแลมือแพ้ง่าย

สาเหตุของโรคที่ควรรู้

สาเหตุของผื่นผิวหนังอักเสบที่มือ อาจเกิดจากการสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Allergen) หรือสารที่ระคายเคืองต่อผิว เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีต่าง ๆ แม้แต่ส่วนผสมบางอย่างในเครื่องสำอางและในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้เป็นประจำ การสัมผัสกับน้ำบ่อย ๆ การถูกอากาศแห้งจัด หรือเย็นจัด ก็สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ เมื่อเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจะทำให้ผิวที่มือแห้ง แตก ลอก คัน และเกิดอาการอักเสบในที่สุด ผิวหนังบริเวณมือที่แตกแห้งจะสูญเสียความแข็งแรงและความสามารถในการต้านทานกับสิ่งที่สัมผัส ทำให้สารต่าง ๆ ซึมผ่านผิวได้มากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ได้ง่ายกว่าปกติโดยมากจะพบว่าเริ่มมีอาการแห้งแตกและเป็นตุ่มคัน ถ้าขาดการดูแลรักษาที่ถูกต้องในช่วงเริ่มต้น อาการต่าง ๆ ของผื่นผิวหนังอักเสบ ที่มือจะรุนแรงมากขึ้น

ผิวหนังอักเสบที่มือ

ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยผื่นผิวหนังอักเสบที่มือ

1. หลีกเลี่ยงสารที่แพ้ หากผื่นผิวหนังอักเสบเป็นเรื้อรังและท่านสงสัยว่าจะเกิดจากการแพ้สารที่สัมผัส ท่านสามารถพบแพทย์เพื่อทำการทดสอบผื่นแพ้สัมผัสที่ผิวหนัง (Patch Test) เมื่อทราบว่าแพ้ สารใดสารหนึ่งควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารนั้น

วิธีดูแลมือแพ้ง่าย

2. ล้างมืออย่างเหมาะสม

  • ไม่ควรล้างมือบ่อยเกินไป
  • ไม่ควรเกิน 2–3 ครั้งต่อวัน และไม่ควรล้างมือด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
  • ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย
  • หลังล้างมือซับมือให้แห้ง โดยไม่ลืมซับบริเวณซอกนิ้ว
  • ทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) หลังล้างมือทุกครั้ง
วิธีดูแลมือแพ้ง่าย

3. หลีกเลี่ยงการใช้สบู่และผงซักฟอกที่มีฤทธิ์เป็นด่างซึ่งจะทำให้ผิวหนังที่มีอาการอักเสบเกิดการระคายเคือง และทำให้ผิวแห้งตึงจึงควรใช้แต่น้อยโดยฟอกเฉพาะบริเวณที่จำเป็น เช่น ตามซอกพับ ซอกอับต่าง ๆ

  • ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน หรือ Soap-free Cleanser (ไม่มีส่วนผสมของสบู่) ปลอดสี ปราศจากน้ำหอม และสารกันบูดที่ไม่จำเป็น
  • หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสบู่ที่ผสมยาฆ่าเชื้อ ยาดับกลิ่น หรือวิตามินที่ไม่จำเป็น
  • อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สบู่ที่ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  • ห้ามใช้แอลกอฮอล์ ยาฆ่าเชื้อ ผงซักฟอก หรือ น้ำยาทำความสะอาด เช็ด หรือล้างมือ
ทาครีมดูแลมือแพ้ง่าย

4. ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นผิว เช่น ครีม โลชั่น หรือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทามือบ่อย ๆ ทาซ้ำทุกครั้งที่รู้สึกผิวแห้งตึง และทุกครั้งหลังล้างมือหรือถอดถุงมือ เพื่อไม่ให้มือแห้ง

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดน้ำหอม ไม่ใส่สีและ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือ ระคายเคือง ผสมอยู่
  • สำหรับมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ถ้ายิ่งมีลักษณะ เหนียวเหนอะ เช่น ขี้ผึ้ง จะสามารถป้องกันการ ระเหยของน้ำจากผิวและให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีกว่า เช่น ผลิตภัณฑ์ลักษณะขี้ผึ้ง White Petrolatum Jelly (วาสลิน) จะดีที่สุด รองลงมาเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ประเภทน้ำมัน เช่น Mineral Oil ครีม และโลชั่นตามลำดับ
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยูเรีย (Urea) นอกจากช่วยอุ้มน้ำในชั้นผิวแล้วยังช่วยเพิ่มการซึมผ่าน ผิวของยาทาชนิดอื่น เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาด้วยทายา
ใส่ถุงมือกันผิวหนังอักเสบที่มือ

5. การสวมถุงมือ แนะนำให้ใส่ถุงมือ เมื่อทำงานที่ เปียกแฉะ หรือต้องสัมผัสกับน้ำ

  • เลือกใช้ถุงมือพลาสติก (โพลียูรีเทน) ถุงมือไวนิล (Vinyl) หรือถุงมือพีวีซี (PVC) จะดีกว่าถุงมือ ยางลาเท็กซ์ (ถุงมือแพทย์) ซึ่งอาจก่อให้เกิด การแพ้สัมผัสจากยางได้
  • ภายในถุงมือควรจะแห้งและสะอาด ควรเปลี่ยนถุงมือทันทีเมื่อรู้สึกว่าด้านในถุงมือเปียกชื้น
  • ในการสวมถุงมือแต่ละครั้ง ไม่ควรใส่ถุงมือนาน กว่า 10-15 นาทีเพราะจะก่อให้เกิดความอับชื้น ระคายเคืองได้ ถ้ามีเหงื่อออกมากให้ใส่ถุงมือ ผ้าขาวไว้ข้างในถุงมืออีกชั้นเพื่อดูดซับเหงื่อใน ระหว่างทำงาน
  • ถ้าทำงานแห้ง ๆ ที่มีฝุ่นสกปรก เลือกใส่ถุงมือ ผ้าสีขาวที่ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มือสกปรก จะทำให้ไม่ต้องล้างมือบ่อย
  • การใส่ถุงมือผ้าสีขาวจะช่วยให้สามารถทา มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่เหนียวเหนอะหนะได้บ่อย ๆ โดยไม่รู้สึกรำคาญ นอกจากนี้หากทายาแล้วใส่ ถุงมือผ้าสีขาวก่อนนอนจะช่วยให้ผิวกักเก็บความ ชุ่มชื้นได้มากขึ้น และยาดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
ผิวหนังอักเสบที่มือ

6. ข้อปฏิบัติอื่น ๆ

  • ไม่ควรใส่แหวน ขณะทำงานบ้าน หรือล้างมือ เพราะสบู่ที่คั่งค้างอยู่ใต้แหวนทำให้ผื่นอักเสบที่ มือกำเริบได้
  • พยายามเลี่ยงงานบ้าน งานอดิเรกที่ต้องสัมผัสกับ ตัวทำละลาย แอลกอฮอล์ น้ำยาทำความสะอาด กาว ขี้ผึ้ง (Wax) อีพ็อกซีเรซิน (Epoxy resin) กาวอีพ็อกซี น้ำมัน และน้ำยาชนิดต่าง ๆ
  • ขณะทำงานบ้าน พยายามใช้แปรงด้ามยาวในการ ล้างจาน หรือทำความสะอาด ถ้าเป็นไปได้ควร ใช้เครื่องซักผ้า หรือเครื่องล้างจาน
  • ควรทายาอย่างสม่ำเสมอ ตามแพทย์สั่ง และควร ดูแลให้ผิวที่มือชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของเหล่านี้ด้วยมือเปล่า เช่น อาหาร น้ำผลไม้เปลือกผลไม้โดยเฉพาะตระกูลส้ม เช่น มะนาว ส้มโอ ผัก โดยเฉพาะหัวหอม กระเทียม พริก เนื้อปลาสด เนื้อสัตว์ต่าง ๆ น้ำยาทำความสะอาด ผงซักฟอก น้ำยาขัดเงา น้ำมันก๊าด ทินเนอร์ตัวทำละลาย (Solvent) กาว แว็กซ์ อีพ็อกซีเรซิน น้ำมันใส่ผม ยาย้อมผม เป็นต้นในกรณีหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นต่าง ๆ ไม่ได้ควรใส่ ถุงมือก่อนการสัมผัสสารเหล่านั้น หรือใช้อุปกรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับมือโดยตรง เช่น แปรงที่มี ด้ามยาว หรือไม่พันสำลีเป็นต้น

อาการผื่น ตุ่มใส และคันตามร่างกาย เป็นสัญญาณที่พบได้หลายโรค หนึ่งในนั้นคือ อีสุกอีใส หากคุณอยากรู้ว่าอีสุกอีใสมีลักษณะผื่นแบบไหน ระยะการดำเนินโรคเป็นอย่างไร สามารถคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

สรุป

ผิวหนังอักเสบที่มือสามารถดูแลได้ด้วยวิธีที่เหมาะสม ผิวหนังอักเสบที่มือมักเกิดจากการสัมผัสกับสารระคายเคือง หรือการล้างมือบ่อยโดยไม่ดูแลความชุ่มชื้น การดูแลควรเริ่มจากการหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น ร่วมกับการฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิวอย่างสม่ำเสมอ หากอาการเป็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม

เขียนบทความโดย

นพ. วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M.D.)
แพทย์ประจำ BSL Clinic เลขว. 39678

คำถามที่พบได้บ่อย

ถ้าเริ่มมีผิวแห้ง ลอก แตก คัน และมีผื่นแดง ๆ หรือตุ่มน้ำใสขึ้นร่วมด้วย โดยเฉพาะช่วงที่ใช้ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด หรือสัมผัสสารบางอย่างบ่อย ๆ มีโอกาสเป็นผื่นผิวหนังอักเสบที่มือมากกว่าผิวแห้งทั่วไป ถ้าเริ่มเป็นบ่อยหรือรบกวนการใช้ชีวิต ควรให้แพทย์ช่วยประเมินค่ะ

หากทามอยส์เจอไรเซอร์ หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองแล้ว อาการยังเป็นเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ มีแผลแตก เจ็บ แสบมาก หรือเริ่มมีน้ำเหลืองซึม ควรพบแพทย์ที่ดูแลด้านผิวหนัง เพื่อประเมินว่ามีการติดเชื้อร่วมด้วยหรือไม่ และวางแผนใช้ยาทา–ยากินที่เหมาะกับระยะของอาการในตอนนั้นค่ะ

มีโอกาสกระตุ้นให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมือแพ้ง่ายอยู่แล้ว จึงควรเลือกสูตรที่อ่อนโยน หรือเลือกใช้สบู่อ่อน ๆ ร่วมกับน้ำเปล่าแทนบางครั้ง และทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังล้างมือหรือหลังใช้แอลกอฮอล์ทุกครั้ง เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากผิวค่ะ

มีโอกาสกลับมาได้ หากยังต้องสัมผัสสารกระตุ้นเดิม ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน แอลกอฮอล์ น้ำยาทำความสะอาด หรือทำงานที่ต้องล้างมือบ่อยโดยไม่ทาครีมบำรุงตาม จึงมักต้องดูแลทั้งการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น การป้องกันผิว และใช้ยาหรือครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยควบคุมอาการในระยะยาว

แนะนำเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สี และไม่มีส่วนผสมที่มักก่อให้เกิดการแพ้ เลือกเนื้อครีมหรือเนื้อขี้ผึ้งที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น ครีมเข้มข้น หรือผลิตภัณฑ์ลักษณะคล้ายวาสลิน เพราะช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวได้ดีกว่าโลชั่นเนื้อเหลว และทาซ้ำทุกครั้งหลังล้างมือหรือเมื่อรู้สึกผิวแห้งตึงค่ะ

ในกลุ่มที่ต้องล้างมือบ่อย ควร

  • เลือกผลิตภัณฑ์ล้างมือที่อ่อนโยน

  • ทามอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมให้ความชุ่มชื้นทุกครั้งหลังล้างมือ

  • ใช้ถุงมือให้เหมาะกับลักษณะงาน เช่น ถุงมือไวนิลหรือ PVC เมื่อต้องทำงานเปียก หลีกเลี่ยงใส่นานเกินไปจนมืออับชื้น

  • พยายามลดการสัมผัสสารระคายเคืองโดยตรง และใช้เครื่องมือช่วย เช่น แปรงด้ามยาว หรือเครื่องล้างจาน แทนการใช้มือเปล่าบ่อย ๆ

ไม่จำเป็นทุกคน แต่หากผื่นเป็นเรื้อรัง รักษาแล้วกลับมาเป็นซ้ำ และสงสัยว่าเกี่ยวกับการแพ้สารบางชนิด เช่น สบู่ น้ำหอม น้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีในการทำงาน แพทย์อาจแนะนำการทดสอบผื่นแพ้สัมผัสที่ผิวหนัง (Patch Test) เพื่อช่วยหาสารที่เป็นตัวกระตุ้น จะได้วางแผนหลีกเลี่ยงได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ

โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ถุงมือพลาสติก ไวนิล หรือ PVC เมื่อทำงานที่ต้องเปียก แทนการใช้ถุงมือยางธรรมชาติ เพราะยางบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้สัมผัสได้ ในการใส่ถุงมือแต่ละครั้งไม่ควรใส่นานเกิน 10–15 นาที และควรเปลี่ยนทันทีเมื่อรู้สึกว่าด้านในถุงมือชื้น เพื่อป้องกันความอับชื้นที่ทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้นค่ะ

ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร บางครั้งการใช้ยาทาบางกลุ่มหรือยากินบางชนิดอาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษ จึงควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่ากำลังตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรือให้นมบุตรอยู่ แพทย์จะช่วยเลือกแนวทางดูแลผิวที่เหมาะสมกับช่วงเวลานั้น และอธิบายวิธีเลี่ยงสารระคายเคืองร่วมกับการบำรุงผิวให้เหมาะกับคุณค่ะ

แนะนำให้

  • จดหรือถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ เช่น สบู่ล้างมือ ผงซักฟอก ครีมบำรุง

  • ถ่ายรูปผื่นในวันที่เป็นมาก และวันที่อาการดีขึ้นเก็บไว้

  • สังเกตว่างานที่ทำหรือกิจกรรมใดบ้างที่ทำให้ผื่นกำเริบ
    ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์ประเมินสาเหตุที่เป็นไปได้ และวางแผนการรักษาและการปรับพฤติกรรมให้เหมาะกับคุณได้ละเอียดขึ้นค่ะ

ข้อมูลนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ การตัดสินใจเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง โดยอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินสภาพผิวเป็นรายบุคคล

หากมีผื่นผิวหนังอักเสบที่มือแล้วกังวลว่าเกี่ยวข้องกับการแพ้สารเคมีหรือการล้างมือบ่อยเกินไป สามารถส่งรูปผื่นและเล่าไลฟ์สไตล์การทำงานเบื้องต้น ให้แพทย์ช่วยประเมินแนวทางดูแลเบื้องต้น